อยากรู้ว่าฟันผุเกิดจากอะไร ทำไมใคร ๆ ก็เป็นกัน ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็เจอปัญหานี้ด้วยกันทั้งนั้น ตามมาดูสาเหตุของฟันผุ วิธีป้องกัน และการรักษาแบบต่าง ๆ ได้เลยที่นี่!
- ฟันผุเกิดจาก การกินอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล, น้ำลาย, คราบหินปูน, ระยะเวลาที่ฟันเจอกับกรด และ ลักษณะฟันและช่องปาก โดยอาการฟันผุจะมีทั้ง รู้สึกเสียวฟันมากขึ้น, รู้สึกปวดฟันมากขึ้น, ผิวฟันมีจุดเทา ๆ ดำ ๆ และ เศษอาหารไปติดบ่อย
- วิธีดูแลช่องปากให้ห่างไกลจากฟันผุ จะต้องดูแลรักษาสุขภาพช่องปากให้ดี, เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ และ หาหมอฟันอย่างต่อเนื่อง แต่หากต้องการรักษาฟันผุก็มีวิธีดังนี้ ใช้ฟลูออไรด์, อุดฟัน, รักษารากฟัน และ ถอนฟัน
หลายคนอาจสงสัยว่าฟันผุเกิดจากอะไร เพราะฟันผุถือเป็นปัญหาสุขภาพช่องปากอันดับต้น ๆ ที่ไม่ว่าจะเพศไหนหรืออายุเท่าไรก็ต้องเจอ โดยเฉพาะตอนเด็ก ๆ ที่ทุกคนก็ล้วนเคยฟันผุด้วยกันทั้งนั้น แต่ยังไงปัญหาฟันผุก็เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจดูแลและไม่ควรเพิกเฉยกับมันเป็นอันขาด เพราะปัญหาเล็ก ๆ อาจลุกลามกลายเป็นปัญหาอันใหญ่หลวงในวันข้างหน้าได้ วันนี้ Dental Design Pattaya เลยจะมาแชร์ข้อมูลสำคัญ ๆ ของปัญหาฟันผุ เพื่อให้ทุกคนรับมือกับปัญหาช่องปากนี้ได้ดีมากขึ้น
ฟันผุ คืออะไร?
จุดดำ ๆ ที่เราเห็นอยู่บนเนื้อฟัน ที่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่ยอมไปหาหมอ วันนึงจากจุดดำธรรมดา ๆ ก็จะค่อย ๆ ลุกลามกลายเป็นรูลึกและกว้างขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งนี้นี่แหละที่เรียกว่า ฟันผุ ซึ่งเป็นปัญหาที่คนทุกคนต้องเจอ ตั้งแต่เด็กยันโต ตั้งแต่ฟันน้ำนมจนฟันแท้ ก็ล้วนผุได้ด้วยกันทั้งนั้น และคนส่วนใหญ่ก็ชอบละเลยไม่ยอมรักษาเพราะคิดว่าไม่ได้เจ็บปวดอะไร และในที่สุดฟันผุก็เริ่มลุกลามจนปวดไปถึงรากฟัน
1. อาการของฟันผุ
บางคนอาจมีฟันผุแค่ซี่เดียว ในขณะที่อีกคนมีฟันผุทีเดียวหลายซี่ ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากของแต่ละคนที่แตกต่างกัน แต่โดยรวมแล้วจะมีอาการดังนี้
- รู้สึกเสียวฟันมากขึ้นกว่าปกติ โดยเฉพาะตอนกินน้ำเย็นหรือน้ำแข็ง หรือตอนกินอาหารรสหวานหรืออาหารร้อน ๆ
- ส่องกระจกดูฟันตัวเองแล้วเห็นเป็นจุดเทา ๆ ดำ ๆ หรือเป็นรูเป็นร่องที่บริเวณผิวฟัน
- ชอบมีเศษอาหารไปติดตรงซอกฟันบ่อย ๆ
- รู้สึกปวดฟันมากขึ้นทุกวัน ๆ
อาการเหล่านี้ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้ ก็จะลุกลามขยายวงกว้างมากขึ้น ๆ และบางครั้งอาจจะรุนแรงจนถึงขั้นฟันเป็นหนองและต้องถอนฟันทิ้งกันเลยทีเดียว
ฟันผุ เกิดจากอะไร?
สาเหตุของฟันผุเกิดได้จากหลาย ๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของฟันหรือไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ตั้งแต่การกินอาหารไปจนถึงการดูลรักษาสุขภาพช่องปาก ก็ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันผุได้ทั้งสิ้น ซึ่งฟันผุเกิดจากสาเหตุหลัก ๆ ดังนี้
1. กินอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล
ชานมไข่มุก น้ำอัดลม ขนมปัง น่าจะเป็นของชอบของใครหลายคน แต่ความอร่อยนี้มักมาพร้อมกับน้ำตาลและแป้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่แบคทีเรียสามารถเอาไปใช้ในการสร้างกรดได้ และกรดที่ได้ก็จะมาทำลายผิวเคลือบฟันของเราอีกที ซึ่งเป็นสาเหตุของฟันผุนั่นเอง
2. น้ำลาย
หลายคนอาจคิดไม่ถึงว่าปริมาณน้ำลายก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดฟันผุได้ เพราะในน้ำลายมีสารที่สามารถควบคุมความเป็นกรดเป็นด่างในช่องปากได้ โดยค่า pH ในช่องปากที่ดีจะอยู่ที่ 6.2–7.4 แต่ถ้าเมื่อไรช่องปากมีความเป็นกรดมาก น้ำลายน้อย หรือช่องปากแห้ง ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันผุได้เช่นกัน
3. คราบหินปูน
อาจจะมีบางคนที่รู้แล้วว่าฟันผุเกิดจากคราบหินปูนได้ เพราะคราบหินปูนเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียที่มีความสามารถในการทำลายผิวฟัน จนทำให้เกิดเป็นฟันผุในที่สุด ดังนั้นถ้าใครไม่อยากฟันผุจะต้องหมั่นไปขูดหินปูนทุก ๆ 6 เดือน
4. ระยะเวลาที่ฟันเจอกับกรด
ถ้าใครไม่อยากฟันผุ ควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เป็นคำเตือนที่ทุกคนได้ยินมาตั้งแต่อนุบาล เพราะถ้าวัน ๆ นึงเราแปรงฟันน้อยเกินไป จะเป็นการไปเพิ่มเวลาให้ฟันเจอกับกรดได้นานขึ้น ซึ่งกรดที่ว่าก็มาจากการที่แบคทีเรียย่อยแป้งและน้ำตาลที่อยู่ในอาหารที่เรากินเข้าไป ดังนั้นพฤติกรรมที่ชอบกินของจุกจิกและไม่ยอมแปรงฟัน จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของฟันผุ
5. ลักษณะฟันและช่องปาก
ฟันผุเกิดจากรูปแบบของฟันและช่องปากได้เช่นกัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่หลีกเลี่ยงได้ยากสุด ๆ เพราะบางคนก็เกิดมาพร้อมเนื้อฟันที่แข็งแรง กรดที่ไหนก็ไม่สามารถมาทำลายได้ แต่ในขณะที่บางคนมีเนื้อฟันที่บางกว่าปกติ ดูแลฟันไม่ดีนิด ๆ หน่อย ๆ ฟันก็อาจจะผุได้แล้ว รวมถึงคนที่มีร่องบนฟันเยอะและลึก ก็จะเกิดฟันผุได้ง่ายกว่าคนที่มีร่องบนฟันน้อยและตื้นนั่นเอง
2. ระดับความรุนแรงของฟันผุ
“ ไม่ปวดก็ไม่ต้องไปหาหมอหรอก ”
ถ้าเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงสาเหตุของฟันผุได้ จนทำให้เกิดปัญหาฟันผุไปแล้ว ทางที่ดีที่สุดก็คือต้องรีบไปหาหมอ เพื่อไม่ให้ฟันผุลุกลามไปมากกว่าเดิม ซึ่งระดับความรุนแรงของฟันผุ มีดังนี้
- ระยะที่ 1 ฟันจะมีคราบสีขาวขุ่น ๆ ที่เกิดจากแป้งหรือน้ำตาลจับตัวกับแบคทีเรีย กลายเป็นกรดและมาทำลายผิวเคลือบฟัน
- ระยะที่ 2 คราบสีขาวขุ่นจะค่อย ๆ กลายเป็นจุดสีเทา ๆ ดำ ๆ ซึ่งเป็นอาการของผิวเคลือบฟันผุ ในระยะนี้จะทำให้ผิวเคลือบฟันค่อย ๆ เสื่อมและสลายตัวลงเรื่อย ๆ
- ระยะที่ 3 จากจุดเทา ๆ ดำ ๆ ก็จะลุกลามกลายมาเป็นรูที่ลึกและกว้างมากขึ้น ซึ่งเป็นอาการของเนื้อฟันผุ และเป็นระยะที่สามารถผุลามไปซี่อื่น ๆ ได้
- ระยะที่ 4 จากรูสีดำ ๆ ที่มีความลึกไม่มาก ก็จะค่อย ๆ ผุลุกลามลงไปถึงโพรงประสาทที่มีเส้นประสาทจำนวนมาก ซึ่งมีโอกาสติดเชื้อจนต้องเลือกที่จะรักษารากฟันหรือถอนฟันทิ้งไปเลย
วิธีดูแลช่องปากให้ห่างไกลจากฟันผุ
1. วิธีป้องกันฟันผุ
- ดูแลรักษาสุขภาพช่องปากให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง การใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำทุกวัน และเลือกใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม ๆ คู่กับยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์
- เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ อย่างโปรตีน ผักสด และผลไม้ที่น้ำตาลไม่เยอะ และต้องไม่ลืมที่จะลดการกินน้ำหวาน อย่างน้ำอัดลม ชานมไข่มุก และต้องงดการกินจุกจิกลงด้วย
- หาหมอฟันอย่างต่อเนื่อง เพราะคนธรรมดาอย่างเรา ๆ จะดูไม่ออกว่าฟันซี่ไหนใกล้จะผุแล้ว แต่หมอฟันจะดูออกและจะให้คำปรึกษาได้อย่างตรงจุด
2. การรักษาฟันผุ
อย่างที่ย้ำแล้วย้ำอีกว่าถ้าใครที่รู้ตัวว่าตัวเองมีฟันผุอย่าได้ปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาด เพราะมันจะลุกลามไปจนกู่ไม่กลับ ทางที่ดีเมื่อรู้แล้วว่าฟันผุเกิดจากอะไรก็ควรหลีกเลี่ยงซะ แต่ถ้าท้ายที่สุดแล้วมันยังผุอีก ก็ต้องไปหาหมอฟันเพื่อรักษาไม่ลุกลาม ซึ่งการรักษาฟันผุก็มีดังนี้
- ใช้ฟลูออไรด์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์ รวมถึงการไปหาคุณหมอเพื่อเคลือบฟลูออไรด์โดยตรงก็ได้เช่นเดียวกัน
- อุดฟัน เป็นการรักษาฟันผุที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี โดยคุณหมอจะทำการกรอเนื้อฟันที่ผุออก จากนั้นจึงตามด้วยการปิดรูด้วยวัสดุอุดฟันแบบต่าง ๆ
- รักษารากฟัน เป็นวิธีรักษาของเคสที่ฟันผุเยอะจนเนื้อเยื้อในฟันอักเสบ ช่วยให้คนไข้เก็บฟันซี่นั้นเอาไว้ โดยคุณหมอจะเอาเนื้อเยื่อที่อักเสบออก ทำความสะอาด และปิดด้วยวัสดุอุดอีกที
- ถอนฟัน เหมาะกับเคสที่เกินเยียวยาหรือมีงบไม่พอที่จะรักษารากฟัน จึงจำเป็นต้องถอนฟันซี่ที่ผุนั้นทิ้งไป
3. ถ้าปล่อยให้ฟันผุลุกลาม จะเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเหล่านี้
- โรคหัวใจ เชื้อแบคทีเรียในฟันจะกระจายไปตามหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนเข้าหัวใจได้ไม่ดี
- ปอดติดเชื้อ เชื้อแบคทีเรียในฟันจะปนไปกับน้ำลาย จนลามไปที่ปอดและเพิ่มโอกาสปอดติดเชื้อได้
- โรคหลอดเลือด การที่ปล่อยให้ฟันผุไปเรื่อย ๆ จนเกิดการอักเสบมาก ๆ สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองได้
- โรคมะเร็งช่องปาก เมื่อฟันผุมาก ๆ จนทำให้เนื้อเยื้อในช่องปากเกิดการระคายเคืองและอักเสบซ้ำ ๆ อาจทำให้เนื้อเยื้อนั้นกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลสำคัญ ๆ ของปัญหาฟันผุ ที่น่าจะช่วยให้ทุกคนรู้แล้วว่า ฟันผุเกิดจากอะไร ฟันผุร้ายแรงแค่ไหน ต้องหลีกเลี่ยงหรือมีแนวทางการรักษายังไงได้บ้าง และหากใครกำลังสนใจตรวจเช็กสุขภาพฟัน ขูดหินปูน หรือต้องการอุดฟัน ก็สามารถมาใช้บริการกับเราที่ Dental Design Center Pattaya ด้วยการบริการที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย เพื่อให้คนไข้ประทับใจและพึงพอใจที่สุด
Dental Design Pattaya คลินิกทันตกรรมครบวงจร มาตรฐานระดับโลก มีบริการอุดฟันและรักษารากฟัน
- มั่นใจได้ในการบริการและคุณภาพในการรักษา ด้วยทีมทันตแพทย์ที่ผ่านการศึกษาจากสถาบันทั้งในและนอกประเทศ มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มากมาย
- เพียบพร้อมด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัยและครอบคลุมทุกการรักษา
- รักษาฟันผุด้วยการอุดฟัน เพื่อดูแลและรักษาฟันแท้ให้อยู่กับคนไข้ไปนาน ๆ
- คืนความแข็งแรงให้กับฟันด้วยการรักษารากฟัน ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ฟันผุ, การอุดฟัน