14

ครอบฟัน สะพานฟัน Crown&Bridge

ครอบฟัน

W5aCWfXcoZGvMdevxODzKXe1mh2HauAa8ANLiePi891yaTKJn3AI21LO4qEhYgiybZcMzx0Ow6nSPnLeYh ntTJsoU gSuX A

ครอบฟัน (Dental Crowns) คืออะไร

การทำครอบฟัน (Dental Crowns) คือการใช้วัสดุที่ดูเหมือนซี่ฟันปกติ สวมครอบหรือคลุมฟันที่เกิดการเสียหายค่อนข้างมากลงไปทั้งซี่คล้ายกับการสวมหมวกทับฟันลงไป มีจุดประสงค์หลักๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง และช่วยให้ฟันกลับมามีสภาพดูเป็นปกติ

ครอบฟัน(Dental Crown)เหมาะกับใคร

ครอบฟันสามารถใช้ได้ในหลายกรณี ไม่ได้จำกัดเฉพาะความเสียหายหนักๆ ที่เกิดขึ้นกับฟันเสมอไป การตัดสินใจใช้ครอบฟันมักขึ้นอยู่กับการพิจารณาร่วมกับทันตแพทย์ โดยต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของผู้ที่ควรทำครอบฟัน

  1. ผู้ที่ได้รับความเสียหายรุนแรง เช่น ฟันแตก ฟันหัก ฟันบิ่น และต้องการรักษาฟันให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ มีสภาพเหมือนจริงมากที่สุด
  2. ผู้ที่มีฟันร้าว
  3. ผู้ที่ทำการรักษารากฟัน เนื่องจากฟันที่ผ่านการรักษารากมักจะเปราะ แตกหักได้ง่าย
  4. ผู้ที่มีฟันเปลี่ยนสีอย่างเห็นได้ชัด เช่นฟันตาย
  5. ผู้ที่มีวัสดุอุดใหญ่ หรือมีรอยผุขนาดใหญ่
  6. เด็กที่ฟันน้ำนมผุ และไม่อาจรักษาได้ด้วยการอุดฟัน

ครอบฟัน(Dental Crown)

XM iBHG9msTd2IRzvjD683G0fGFDbsz rr4hWazuSJUQSyt7QV4ShtvawbIgFl496b n9SgK5mcAVu

  1. ครอบฟันโลหะล้วน (Full Metal Crown: FMC)
  2. ครอบฟันเซรามิกล้วน (All-ceramic crown: ACC)
  3. ครอบฟันโลหะเคลือบเซรามิก (Porcelain-fused-to-metal crown: PFM)
  4. ครอบฟันเรซินล้วน (All-resin crown)

ขั้นตอนการทำครอบฟัน

การทำครอบฟันอาจต้องไปพบทันตแพทย์ 2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับลักษณะฟันของแต่ละคน โดยขั้นตอนหลักๆ อาจมีดังนี้

  1. ทันตแพทย์จะทำการเอ็กซเรย์ (X-rays) เพื่อตรวจดูสภาพช่องปาก ฟัน และกระดูกว่าต้องการการรักษาแบบใด
  2. กรณีที่ต้องได้รับการรักษาอย่างอื่นก่อน เช่น มีฟันผุ หรือถ้ามีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อ เกิดการอักเสบบริเวณเนื้อฟัน ก็ควรรักษารากฟันก่อน
  3. เมื่อพิจารณาแล้วว่าฟันควรได้รับการทำครอบฟัน ทันตแพทย์จะทำการฉีดยาชาเฉพาะที่กรอฟันทั้งด้านบนและด้านข้าง เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับความหนาของครอบฟันแต่ละชนิด
  4. เมื่อกรอฟันเรียบร้อยแล้ว จะทำการพิมพ์ฟัน และเช็กสีฟันรอบข้างเพื่อนำไปผลิตครอบฟันขนาดที่พอดีกับฟันของคุณ โดยอาจผลิตในห้องปฏิบัติการซึ่งใช้เวลา -2 สัปดาห์

ปัจจุบันเทคโนโลยีในการพิมพ์ฟันด้วยระบบสแกนฟันสามมิติ ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้วัสดุพิมพ์ปากในการพิมพ์แบบฟันเช่นในอดีต 

ที่คลินิกทันตกรรมเด็นทัลดีไซน์เซ็นเตอร์ เรานำเทคโนโลยี intraoral digital scanner 3 shape มาใช้ในการพิมพ์แบบฟันระบบดิจิตัล ด้วยเทคโนโลยีการขึ้นรูปชิ้นงานสามมิติ ทำให้ครอบฟันสามารถถูกผลิตด้วยเครื่องกลึงทางทันตกรรม หลังจากที่ครอบฟันได้ถูกออกแบบโดยแลปทันตกรรม ทำให้ชิ้นงานครอบฟันที่ได้มีความแม่นยำ สวยงาม และรวดเร็วขึ้น

AL7Tqdora5wUOgeN9NKhLKgSzLzeKOKnGKGklQv2p0dpaJ0yuZlkN1PUC44ksBw2Ua2nChpXsFWa4BIuynnGMujaEGbzWlqs4H6qR cXvn9hM53Qs3hvnenR6PJnJ7fHso uXrP5O932

pMTg5ZXfqcqMDtfDeBRqPickrf3aJqQv p5hhgOOJ w54YwTp853aoTKlyJ oOFdpqvO 02ri7Pf7d5HehUuM epgH2wYTwhFdVgEcpy7xcoUQnnQcsoK7C Itnfif1hKItSUjEL9OS

  1. ระหว่างรอครอบฟันของจริงที่จะนำมาใช้ ทันตแพทย์อาจให้คุณใส่ครอบฟันชั่วคราวก่อนเพื่อป้องกันฟันที่ถูกกรอไปแล้ว
  2. เมื่อถึงกำหนดนัดหมายใส่ครอบฟันของจริง ทันตแพทย์จะถอดครอบฟันชั่วคราวออก และตรวจสอบขนาดครอบฟันของจริง และสีครอบฟันอันใหม่ว่าเข้ากับฟันซี่อื่นหรือไม่ หากทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจึงทำการยึดครอบฟันด้วยซีเมนต์ทางทันตกรรม
  3. อย่างไรก็ตาม บางกรณีอาจมีการทำครอบฟันให้ภายในการนัดหมายเพียงครั้งเดียวหากทันตแพทย์มีอุปกรณ์ที่สามารถผลิตครอบฟันได้ในคลินิกเลย
V55W1KMC1hZCtPUfUAHcw5THhEk2h3XtCIxw3LDNeKJddP76rqHNF 9bcbn8m PVTAffzAXZyx22cKo

ข้อดีของครอบฟัน

  1. ช่วยบูรณะฟันของคุณกลับมาแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหารที่แข็งและเคี้ยวยากกว่าได้
  2. สามารถช่วยปรับการเรียงตัวของฟันให้สม่ำเสมอได้เท่ากับการทำวีเนียร์
  3. กรณีที่ฟันธรรมชาติมีความผิดปกติอันมาจาก โครงสร้างของฟันที่อ่อนแอ การทำครอบฟันจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ฟันดังกล่าวได้

ข้อเสียของครอบฟัน

  1. ในการทำครอบฟันแบบเซรามิกต้องกรอเนื้อฟันออกในปริมาณที่มากกว่า ซึ่งอาจทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดในช่วงเวลาระหว่างทำ
  2. มีราคาสูงเมื่อเทียบกับการอุดฟัน อีกทั้งฟันที่อยู่ในครอบฟันอาจจะเกิดการผุได้ ดังนั้นผู้ทำครอบฟัน จึงต้องรักษาฟันทำให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ และหมั่นมาตรวจสุขภาพฟันที่ครอบกับทันตแพทย์ทุก ๆ 6 เดือน

โดยสรุปแล้ววีเนียร์กับการครอบฟันนั้นแตกต่างกันที่วีเนียร์จะเคลือบแค่ผิวฟันและส่วนใหญ่วีเนียร์จะแก้ไขได้แค่ฟันที่มีปัญหาไม่เยอะมาก หรือฟันสีคล้ำให้กลับมาสวยงาม ส่วนการครอบฟันนั้นจะเป็นการรักษาฟันที่มีปัญหาทั้งซี่หรือฟันที่ผุบิ่น มีปัญหามาก ๆ จนไม่สามารถบูรณะได้ด้วยอุดฟันอย่างเดียวได้แล้ว

สะพานฟัน(Dental Bridge)

w2QitXciGuwqmTx0islb0gD zh6 tVrLjB1NvL V2OPHwTeqWceAwU y57r7GiTARayA31d5A5zKN6udappdA3vXBb RC2l BydbWjMtUKBakGrc49gLTMvymDRmX03HIUAS89VDg4lP

สะพานฟัน (Dental Bridge) คือฟันปลอมติดแน่นชนิดหนึ่ง ทำพื่อทดแทนฟันที่หายไป 1-2 ซี่ โดยจะต้องทำการกรอฟัน 2 ข้างที่อยู่ติดกับช่องถอนฟัน เพื่อใช้เป็นหลักยึดของสะพานฟัน โดยตรงกลางของสะพานฟันจะลอยอยู่เหนือเหงือกคล้ายกับสะพาน ฟันซี่ตรงกลางของสะพานฟันนี้เรียกว่าฟันลอย (Pontics) เป็นฟันซี่ที่ทดแทนฟันที่เสียไป ด้วยเหตุนี้ข้อสำคัญคือ ฟันซี่ข้างเคียงที่ใช้เป็นหลักยึดของสะพานฟันจะต้องสมบูรณ์ แข็งแรง หรือฟันข้างเคียงอาจเป็นฟันที่ทำรากฟันเทียมก็ได้เช่นกัน

วัสดุที่ใช้ทำสะพานฟันนั้นคล้ายคลึงกับการทำครอบฟัน นั่นคือมีทั้งแบบทำจากโลหะล้วน เซรามิกล้วน หรือโลหะเคลือบเซรามิก

ทำไมต้องใส่สะพานฟัน(Dental Bridge)

สะพานฟันมีข้อดีหลายข้อ ดังนี้

  1. ช่วยให้สามารถกัด เคี้ยว และพูดได้ปกติยิ่งขึ้น
  2. สะพานฟันใช้งานสะดวก ติดแน่นกับฟันได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องกังวลว่าจะหลุดระหว่างการพูดคุยหรือรับประทานอาหาร
  3. ไม่ต้องคอยถอดออก หรือสวมใส่เป็นประจำเหมือนฟันปลอมแบบถอดได้
  4. สะพานฟันมีการกระจายน้ำหนักเพื่อรองรับการบดเคี้ยว คงทนแข็งแรง ใช้ทดแทนฟันธรรมชาติได้เป็นอย่างดี
  5. สะพานฟันช่วยป้องกันการล้มของฟันซี่ข้างเคียงได้
  6. ช่วยให้สภาพฟันทุกซี่เรียงตัวกันเหมือนปกติ มีสีใกล้เคียงกับฟันซี่อื่นๆ ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้รับบริการ
  7. ด้วยข้อดีและประโยชน์ดังกล่าว สะพานฟันจึงถือเป็นทางเลือกที่ดีในการปกป้องฟัน และกลับมาใช้งานได้ปกติยิ่งขึ้น

ประเภทของสะพานฟัน

แม้สิ่งที่หลายคนนึกถึงสะพานฟันจะเป็นฟันหลายๆ ซี่เรียงติดกัน แต่ความจริงแล้วสะพานฟันมีด้วยกันหลักๆ ถึง 3 ประเภท ดังนี้

1. สะพานฟันแบบทั่วไป หรือสะพานฟันแบบดั้งเดิม

24 nFMfu0h0U tEFoqNfharrRCLEzV0sd899n0ipgueUIaHofhkIKY7MZCr76gZjT9DQAfYJJKaQBpLVqbpMRu280zjO7XUi5Xn5x

สะพานฟันแบบทั่วไป (Traditional bridge) หรือสะพานฟันแบบดั้งเดิม ถือเป็นรูปแบบที่นิยมทำมากที่สุด โดยจะใช้ฟันทั้งข้างซ้ายและข้างขวาของสะพานฟันเป็นหลักยึดกับฟันธรรมชาติของผู้รับบริการ และมีฟันลอย 1 หรือ 2 ซี่ เชื่อมอยู่ตรงกลางในตำแหน่งที่ฟันแท้หลุดออกไป

การใส่สะพานฟันแบบทั่วไปนี้ ทันตแพทย์จำเป็นต้องกรอฟันที่เป็นหลักยึดทั้ง 2 ข้างให้มีลักษณะเหมาะสมก่อนจะครอบสะพานฟันลงไป ข้อดีของสะพานฟันประเภทนี้คือใช้ในการบดเคี้ยวอาหารได้ดีกว่าสะพานฟันชนิดอื่นๆ แต่ข้อจำกัดสำคัญคือ จำเป็นต้องกรอฟันที่แข็งแรงเพื่อเป็นหลักยึดถึง 2 ซี่

2. สะพานฟันแบบมีหลักยึดข้างเดียว

สะพานฟันแบบมีหลักยึดข้างเดียว (Cantilever bridges) เป็นรูปแบบที่พัฒนาจากสะพานฟันแบบทั่วไป โดยมีลักษณะคล้ายกัน เพียงแต่ใช้ฟันเป็นหลักยึดเพียงซี่เดียวเท่านั้น ผู้รับบริการจึงต้องถูกกรอฟันที่แข็งแรงเพียง 1 ซี่ แต่ความคงทนแข็งแรงจะไม่สูงนัก หากเคี้ยวอาหารที่แข็งหรือเหนียวจนเกินไปมีโอกาสแตกหักได้

3.  สะพานฟันแบบแมรี่แลนด์

NJ2 SkTAyuxVfLs1hk9svW7bTF5Gj1SGosuz4DCTcGA iNkNr4W8RmZ7p25c6rQrl XN4elZ SQtWzCH1u PzkdIcxnV4kDgH9qz3IRzbxTAxTk7qd15104TtNE8oj5OKSR1jkks 9F8

สะพานฟันแบบแมรี่แลนด์ (Maryland bridges) หรือสะพานฟันที่ยึดด้วยเรซิน บางคนอาจเรียกว่าสะพานฟันแบบปีกผีเสื้อ เป็นสะพานฟันที่มีฟันปลอมเพียงซี่เดียวโดดๆ แต่มีแกนโลหะลักษณะคล้ายปีกผีเสื้อติดอยู่ด้านหลัง

ปีกโลหะนี้จะทำหน้าที่ยึดเกาะกับฟันข้างเคียงทั้งซ้ายและขวาโดยใช้เรซินเป็นตัวเชื่อม ข้อดีคือไม่จำเป็นต้องกรอฟันข้างเคียงที่เป็นหลักยึดเลยแม้แต่ซี่เดียว แต่ข้อจำกัดคือความแข็งแรงจะไม่เท่ากับการทำสะพานฟันแบบทั่วไป

ขั้นตอนการทำสะพานฟัน

แม้การทำสะพานฟันจะไม่ใช่กระบวนการที่ซับซ้อนมากนักหากเทียบกับการทำรากฟันเทียม แต่การทำสะพานฟันส่วนมากมักต้องไปพบทันตแพทย์ 2 ครั้ง โดยมีขั้นตอนหลักๆ มีดังนี้

  1. เตรียมฟันสำหรับเป็นหลักยึด หากทันตแพทย์พิจารณาแล้วว่าควรทำสะพานฟัน นั่นหมายความว่าจะต้องมีฟันหลักยึดที่แข็งแรงดีอยู่ใกล้กับฟันซี่ที่สูญเสียไป ทันตแพทย์จะทำการกรอฟันที่แข็งแรงดังกล่าวให้มีพื้นที่สำหรับสวมสะพานฟัน โดยจะทำการฉีดยาชาเฉพาะที่ก่อน
  2. พิมพ์ฟันเพื่อออกแบบสะพานฟัน หลังจากกรอฟันจนได้ขนาดที่เหมาะสมแล้ว ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ฟัน หรือใช้ดิจิตอลสแกน (Digital Scan) ช่องปาก เพื่อไปผลิตสะพานฟันในห้องปฏิบัติการซึ่งอาจต้องใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ ในระหว่างนี้ทันตแพทย์จะให้สะพานฟันแบบชั่วคราวมาใส่แทนก่อน
  3. ใส่สะพานฟันตามกำหนด เมื่อสะพานฟันของจริงเสร็จแล้ว ทันตแพทย์จะถอดเอาสะพานฟันชั่วคราวออก ปรับแต่งแก้ไขสะพานฟันของจริงจนพอดี แล้วใส่สะพานฟันของจริง โดยยึดด้วยซีเมนต์ทางทันตกรรม
  4. โดยปกติทันตแพทย์จะทำการตรวจสอบหลังจากใส่สะพานฟันของจริงว่าใส่ได้พอดีไหม ในช่วงนี้หากรู้สึกว่าตรงไหนไม่พอดีหรือเกิดปัญหาใดๆ ขึ้น ควรแจ้งกับทันตแพทย์เพื่อทำการปรับแก้ไขทันที

อาการที่อาจเกิดขึ้นหลังใส่สะพานฟัน

หลังจากใส่สะพานฟันแล้วอาจรู้สึกเจ็บบ้างเล็กน้อยเนื่องจากทันตแพทย์ได้ทำการกรอฟันออกไป บางรายอาจมีเลือดออกบริเวณเหงือกบ้างเล็กน้อย  โดยส่วนมากอาการเจ็บนี้จะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปในไม่กี่วัน แต่หากมีอาการเจ็บบริเวณเหงือกอาจต้องใช้เวลา 1-2 สัปดาห์จึงจะหายสนิท 

ข้อเสียของการทำสะพานฟัน อาจมีดังนี้

  1. จำเป็นต้องกรอฟันข้างเคียง ทำให้สูญเสียฟันธรรมชาติที่แข็งแรงไป
  2. เนื่องจากฟันที่เป็นหลักยึดยังเป็นฟันตามธรรมชาติ จึงมีโอกาสผุกร่อนใต้สะพานฟันได้
  3. สะพานฟันจะมีส่วนที่ลอยตัวอยู่เหนือเหงือก ซึ่งอาจทำความสะอาดยากกว่าฟันธรรมชาติ จึงต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษ
  4. นอกจากนี้หากตัวยึดของสะพานฟันเกิดหลวม หรือฟันซี่ที่เป็นหลักยึดเกิดผุกร่อน ทันตแพทย์อาจต้องรื้อสะพานฟันออกและทำการติดตั้งใหม่ หรือรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป

อย่างไรก็ตาม หากดูแลรักษาสะพานฟันอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาแทรกซ้อนอื่นๆ ได้มาก

การดูแลรักษาสะพานฟัน

สะพานฟันมีความแข็งแรง และยึดติดแน่นไปกับฟันธรรมชาติ โดยการดูแลรักษาสะพานฟันไม่ได้มีวิธีที่พิเศษกว่าการดูแลฟันปกติมากนัก ดังนี้

  1. แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ ทันตแพทย์จะแนะนำวิธีการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันชนิดพิเศษ (Superfloss) ขัดระหว่างเหงือกกับตัวสะพานฟัน หรืออาจใช้เครื่องฉีดพ่นแรงดันน้ำ (Water flosser) ฉีดทำความสะอาดใต้สะพานฟัน
  2. ไปพบทันตแพทย์เป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้ทันตแพทย์ตรวจดูความเรียบร้อยของสะพานฟันและสุขภาพฟันโดยรอบ หากพบปัญหาจะได้แก้ไขได้ตั้งแต่ยังไม่ร้ายแรง
  3. ควรกินอาหารให้หลากหลาย เน้นอาหารจำพวกผักผลไม้และไฟเบอร์ (Fiber)4. หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็งเกินไป เช่น น้ำแข็ง ลูกอม เนื่องจากอาจทำให้สะพานฟันแตกได้