3

ทันตกรรมจัดฟัน

9 เหตุผล ที่ทำให้ใครๆก็เลือกจัดฟันที่คลินิกเด็นทัลดีไซน์เซ็นเตอร์พัทยา Dental Design Center Pattaya

selective focus of cheerful woman in braces openin 2022 12 16 16 09 58 utc

มีเครื่องมือจัดฟันให้เลือกครบทุกระบบ ซึ่งคุณหมอจัดฟันสามารถแนะนำระบบที่เหมาะสมที่สุดให้กับท่าน โดยทางคลินิกของเราเลือกใช้เครื่องมืออุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันแบบโลหะซึ่งต้องใส่ยางสีๆ การจัดฟันระบบสปีด หรือระบบดามอน  การจัดฟันแบบเซรามิคใส การจัดฟันแบบใสไร้เหล็ก Invisalign และการจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกรในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างกระโหลกศีรษะและใบหน้า

ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันไม่แพงเกินไป สามารถแบ่งจ่ายเป็นงวดๆได้ ไม่ต้องจ่ายเงินเป็นก้อนใหญ่ สามารถชำระเป็นเงินสด หรือบัตรเครดิตโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

สามารถติดครื่องมือจัดฟันได้อย่างรวดเร็ว หลังจากตรวจและปรึกษากับคุณหมอจัดฟันแล้วสามารถวางแผนการรักษาได้ทันที เนื่องจากทางคลินิกของเรามีเครื่องเอ็กซเรย์ระบบดิจิตอล 3 มิติ ทำให้สามารถเห็นภาพซึ่งมีความคมชัดได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาคอย นอกจากนี้เรายังมีทีมทันตแพทย์ ซึ่งสามารถทำนัดเคลียร์ช่องปากได้ทันที

เครื่องมือทุกชิ้นสะอาดปลอดภัยผ่านระบบการอบฆ่าเชื้อทำให้ปราศจากเชื้อโรค 100% ถุงมือ หลอดดูดน้ำลาย แก้วน้ำ ใช้แล้วทิ้ง มั่นใจได้ในเรื่องความสะอาดปลอดภัย

หลังจากติดเครื่องมือ เจ้าหน้าที่ของเราจะทำการสอนทันตสุขศึกษา สอนวิธีแปรงฟัน  ใช้ไหมขัดฟันเฉพาะสำหรับคนไข้จัดฟัน และการใช้แปรงซอกฟัน เพื่อให้แน่ใจว่าทุกท่านสามารถดูแลสุขภาพช่องปากขณะจัดฟันได้อย่างถูกวิธี ไม่ทำให้เกิดปัญหาฟันผุ และฟันด่างภายหลังถอดเครื่องมือจัดฟัน

ทางคลินิกของเรามีคุณหมอจัดฟันเข้าเกือบทุกวัน หากท่านมีปัญหาเรื่องลวดทิ่ม อุปกรณ์หลุด ไม่ต้องรอถึงเดือนหน้า ท่านสามารถเข้ามาทำการปรับในกรณีฉุกเฉินได้ นอกจากนี้คุณหมอของเรายังให้ความเป็นกันเอง ให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา เอาใจใส่คนไข้ทุกคน และวางแผนการรักษาโดยดูโครงสร้างใบหน้าร่วมด้วย ไม่ได้จัดเรียงเฉพาะฟัน

สำหรับท่านที่ชอบการมีสีสัน ท่านสามารถเลือกสีของยางจัดฟันได้ตามต้องการ คละสี สลับสี ไม่จำกัดจำนวนสี ท่านสามารถดีไซน์ได้ตามใจชอบ

ทางคลินิกของเรามีระบบการจัดการทำนัด โทรเตือนนัด และติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระหว่างและหลังจัดฟัน เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีจะได้อยู่กับคุณตลอดไป

การเดินทางมาที่คลินิกสะดวกสบาย เพราะ มีทั้งระบบขนส่งมวลชน มีที่จอดรถบริเวณหน้าคลินิก

เรื่องทั่วไปเกี่ยวกับการจัดฟัน

slide1

การจัดฟัน (Orthodontics) เป็นกระบวนการแก้ไขความไม่สมดุลที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของขนาดและการเรียงตัวของฟัน รวมถึงการสบฟันที่ผิดปกติให้กลับคืนสู่สภาพปกติ  โดยอาศัยแรงจากเครื่องมือจัดฟันเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการปรับแต่งใหม่ของกระดูกที่ล้อมรากฟันจะเกิดการละลายและเสริมสร้างใหม่ของกระดูกแบบค่อยเป็นค่อยไปและเกิดการเคลื่อนตัวของฟันในอัตราเฉลี่ย 1 มิลลิเมตร ต่อ 1 เดือน การจัดฟันจะช่วยทำให้เกิดการเรียงตัวของฟันที่ดี ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหาร และการพูด  ยังช่วยทำให้สุขภาพฟันและเหงือกแข็งแรง ส่งผลไปยังสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอีกด้วย

  1. การจัดฟันช่วยให้การเรียงฟันเป็นระเบียบสวยงามมากยิ่งขึ้น
  2. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบดเคี้ยว เมื่อการสบฟันดีขึ้นก็จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น
  3. ช่วยให้การดูแลรักษาฟันเป็นเรื่องง่ายขึ้น เมื่อฟันเรียงตัวดี อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม การทำความสะอาดฟันจะง่ายขึ้น ช่วยลดโอกาสการเกิดฟันผุ โรคเหงือกอักเสบ และการสูญเสียฟันในอนาคต 
  4. ช่วยปรับรูปหน้าให้เข้าที่ การจัดฟันทำให้ใบหน้าเข้าที่มากขึ้น เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการเรียงตัวของฟัน รูปหน้าก็มักจะเปลียนเข้ารูปมากขึ้น เช่น คนที่ฟันยื่น เมื่อจัดฟันเสร็จ รูปหน้ามักจะดูเรียวขึ้น หรือคนที่สบฟันลึก เมื่อจัดฟันเสร็จรูปหน้าจะดูยาวขึ้น
  5. ช่วยลดการเกิดปัญหาบริเวณข้อต่อขากรรไกร 
  6. ในบางกรณีอาจช่วยในเรื่องการหายใจ การพูด

  1. การจัดฟันแบบติดเครื่องมือ: เป็นวิธีจัดฟันที่ใช้กันมาอย่างแพร่หลาย เป้นการจัดฟันโดยการติดเครื่องมือที่เรียกว่า “แบร็กเก็ต” บนผิวฟัน และใช้ลวด เพื่อให้มีแรงในการเคลื่อนฟันไปในทิศทางที่ต้องการ
  2. การจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ: เป็นการจัดฟันแบบใสถอดได้ ( Clear aligner) ไม่ต้องติดเครื่องมือจัดฟันบนฟัน โดยเครื่องมือจะมีลักษณะเป็นพลาสติกใสถอดเข้าถอดออกได้ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Invisalign”

การจัดฟันแบบติดเครื่องมือ แบ่งเป็น

1. การจัดฟันแบบโลหะรัดยาง

เป็นการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากค่าใช้จ่ายย่อมเยาว์ที่สุด โดยเครื่องมือจัดฟันจะทำจากโลหะที่มีคุณภาพ ไร้สนิม ใช้ติดที่ผิวฟันด้านนอก และมีการเปลี่ยนยางทุกเดือนเนื่องจากยางจะเสื่อมคุณภาพลงหลังจากใช้งานเพียง 3-4 สัปดาห์ จึงต้องมีการปรับเครื่องมือเปลี่ยนยาง หรือเปลี่ยนลวดโดยทันตแพทย์ทุกเดือน การจัดฟันแบบนี้เหมาะกับกลุ่มคนไข้ทั่วไปที่ต้องการให้เห็นสีสันของยาง ไม่มีปัญหาในการที่คนอื่นจะมองเห็นการจัดฟันของตน

ข้อดี

ราคาไม่สูงมากนัก เหมาะกับวัยรุ่นที่ชอบความมีสีสัน เนื่องจากสามารถสนุกกับการเลือกสีสันต่างๆของยางได้ทุกเดือน 

ข้อควรระวัง

    ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ และมาพบทันตแพทย์จัดฟันทุกเดือน เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ต้องได้รับการปรับโดยทันตแพทย์จัดฟัน ไม่เช่นนั้นแล้วอาจส่งผลเสียต่อฟันได้ เช่น เกิดแรงในการเคลื่อนฟันที่ไม่ถูกต้อง เกิดแรงเคลื่อนฟันที่มากเกินไป หรือทิศทางของแรงไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีเครื่องมือตัวใดตัวหลุด ดังนั้น เพื่อผลสำเร็จของการรักษา และหากเกิดความผิดปกติของเครื่องมือภายในช่องปาก ควรรีบติดต่อทางคลินิกทันทีเพื่อพบหรือปรึกษาทันตแพทย์จัดฟัน เพื่อรักษาอาการผิดปกติเหล่านั้น

2. การจัดฟันด้านนอกแบบโลหะไม่ต้องรัดยาง (Speed Braces หรือ Damon System)

ระบบดามอน จะใช้กลไกการสไลด์เพื่อจับลวดจัดฟัน ซึ่งทำให้ฟันสามารถเคลื่อนตัวอย่างอิสระ ฟันจึงเคลื่อนตัวได้รวดเร็วมากขึ้น และยังรู้สึกสบายขณะจัดฟัน นอกจากนี้คนไข้ยังสามารทำความสะอาดอย่างง่ายดายเพราะไม่มียางยึดติดซึ่งเป็นแหล่งสะสมพลัค (Plaque)

ระบบดามอนเป็น passive self-ligating braces
az qu6U PSJUZSf0zUW0aqEfj MY32dJt1olEzzuupb9Lz4CG65DSgnRT 1UoUTNdmVg7VV Fj3NgX1bwSNuJmAu JYDmV0Ivo5pxyXEYui82 Vv2vAHO4mHoEGLUpkpH3Fua5YkqHkVHuYNv0 ERss

แบร็กเก็ตถูกออกแบบมาเป็นพิเศษโดยจะช่วยลดแรงเสียดทานของลวดในขณะเคลื่อนฟัน ทำให้คนไข้รู้สึกสบายขึ้น ไม่ปวดฟัน เนื่องจากไม่เกิดแรงตึงมากในขณะที่ฟันเคลื่อนที่

  • ระบบดามอนใช้ลวดชนิดพิเศษ Light high-technology shape-memory wires
  • ช่วยให้ฟันเคลื่อนตัวได้เร็วขึ้นและลดระยะเวลาที่ต้องมาพบแพทย์จัดฟันเพื่อทำการปรับเครื่องมือ
  • A new clinically proven treatment approach

จากผลงานวิจัยทางคลินิกยืนยันว่าการจัดฟันของคุณนั้นมีผลต่อโครงสร้างใบหน้า ระบบดามอนจะช่วยลดโอกาสการถอนฟัน หรือการใช้เครื่องมือพิเศษใดๆ

ข้อมูลจาก http://www.damonbraces.com , สหรัฐอเมริกา 

ข้อดี
  • ลดระยะเวลาในการจัดฟัน : ด้วยความสามารถของเครื่องมือจัดฟันที่เคลื่อนฟันได้อย่างต่อเนื่อง มีแรงเสียดทานน้อย มีการศึกษาพบว่าทำให้ร่นระยะเวลารักษา เมื่อเปรียบเทียบกับการจัดฟันโลหะแบบเดิม มีประสิทธิภาพของการใช้แรงดึงฟันที่เบาและนุ่มนวล ช่วยลดโอกาสการเกิดการละลายตัวของรากฟัน ป้องกันเหงือกร่น และลดการสูญเสียฟันได้
  • ลดระยะเวลาพบแพทย์  : ไม่จำเป็นต้องพบหมอทุกเดือน โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเรียงฟัน เนื่องเส้นลวดสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องการยางรัด
  • ลดการระคายเคืองภายในช่องปาก : ด้วยชนิดเครื่องมือจัดฟันที่มีกลไกเคลื่อนฟันเอง ทำให้แพทย์ไม่ต้องใช้แรงดึงกดที่ตัวซี่ฟันเหมือนกับการจัดฟันโลหะแบบรัดยาง
  • ลดโอกาสการเกิดฟันผุ และเหงือกอักเสบ :  เนื่องจากไม่ต้องใช้ยางดึงฟันแบบเดิม ทำให้คุณสามารถทำความสะอาดฟันได้ง่ายขึ้น และมีสุขภาพเหงือกที่ดีขึ้นด้วย  และด้วยดีไซน์ของตัวแบร็กเก็ต ที่มีขนาดเล็ก ไม่มีร่องอันจะเป็นที่กักเก็บของเศษอาหารหรือเชื้อแบคทีเรียซึ่งอาจก่อให้เกิดฟันผุได้
  • ลดโอกาสที่จะต้องถอนฟันร่วมด้วยในการจัดฟัน :  ด้วยแบร็กเก็ตและลวดชนิดพิเศษทำให้สามารถแก้ไขปัญหาฟันซ้อนเกได้เป็นอย่างดีแม้จะไม่ได้ถอนฟัน แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์ผู้รักษา
ระบบดามอนเหมาะกับใคร

ผู้ที่ไม่มีปัญหาเรื่องการติดเครื่องมือจัดฟันในปาก ต้องการจัดเสร็จไว ไม่ต้องมาพบคุณหมอทุกเดือน และกลัวการเจ็บปวด

3.การจัดฟันด้านนอกแบบคริสตัลใส ( เซรามิก)

jYOtDAz04xQL414KsGqE6rMsBye1nst6wV0tRIsYuPcwLnhrmFVO4qeo84eWIUnmzsMUYDd1cy hpO9cKqodMOA2QYSDEk hMrRMg4fi5pclfHkEW3 7OXHmmR1x7kaWXXU8yA7GoOOv 5p UcCVk7Y

      เป็นการจัดฟันที่มักจะพบได้ในกลุ่มคนไข้ที่เป็นผู้ใหญ่ หรือผู้ที่ไม่ต้องการให้ผู้อื่นเห็นเครื่องมือจัดฟันชัดเจนมากนัก โดยใช้วิธีการติดเครื่องมือแบบเซรามิก ซึ่งมีสีใกล้เคียงกับผิวฟันไว้ที่ผิวฟันด้านหน้า แล้วใส่ลวดผ่านร่องเครื่องมือและใช้ยางสีใสรัดเข้ากับเครื่องมือ  หรืออาจเป็นเซรามิกระบบที่ไม่ต้องใส่ยางรัด ก็จะช่วยลดแรงเสียดทานในระหว่างเคลื่อนฟันลง

ข้อดี

เครื่องมือจัดฟันประเภทนี้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ ให้สีและความใสใกล้เคียงสีฟันมากที่สุดครับ ดังนั้นจึงมองไม่ค่อยเห็นว่าคนไข้กำลังจัดฟันอยู่ 

เหมาะกับใคร

การจัดฟันแบบจัดฟันเซรามิก เหมาะกับผู้ที่ต้องการจัดฟัน แต่ไม่อยากให้คนสังเกตชัดเจน และคิดว่าไม่สามารถใส่เครื่องมือจัดฟันใสแบบถอดได้เนื่องจากกังวลเรื่องต้องคอยถอดเข้า-ออก         

การจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ 

เป็นการจัดฟันที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยด้วย หรือที่อาจเรียกว่า “การจัดฟันแบบดิจิตอล” โดยมีการนำเครื่องสแกนเนอร์ (Intra-oral scanner) มาสแกนฟัน หลังจากนั้นคุณหมอจะทำการวางแผนการรักษาผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 3 มิติ โดยคนไข้สามารถเห็นผลการรักษาก่อนเริ่มการจัดฟัน ปัจจุบันมีเครื่องมือจัดฟันแบบใสหลายระบบ แต่ระบบที่ได้รับการยอมรับ และมีคนจัดมากที่สุด ได้แก่ การจัดฟันแบบใสอินวิสไลน์ 

การจัดฟันแบบใสไร้ลวด (Invisalign)

จัดฟันแบบใส  หรือ เครื่องมือ จัดฟัน Invisalign เป็นนวัตกรรมการจัดฟันแบบใหม่ เน้นความสวยงามเป็นหลักครับ เพราะใช้เครื่องมือโปร่งใสช่วยปรับการเรียงตัวของฟัน เป็นเครื่องมือจัดฟันที่สามารถถอดใส่ได้จาก USA 

ข้อดี

การจัดฟันประเภทนี้จะมองไม่เห็นเครื่องมือ สะดวก สามารถถอดใส่ง่าย รับประทานอาหารหรือเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ และไม่ระคายเคืองในช่องปาก สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติ แพทย์จัดฟันจะเป็นผู้ออกแบบโปรแกรมภาพสามมิติ แสดงภาพของการเคลื่อนที่ของฟันแต่ละขั้นตอนจากแรกเริ่มของการทำงาน ไปจนกระทั่งฟันเรียงตัวกันออกมาอย่างสวยงาม  และเครื่องมือจัดฟันแบบใสนั้นจะทำงานตามขึ้นตอนต่างๆ ดังภาพสามมิติที่แสดงไว้  โดยเครื่องมือจัดฟันแต่ละชุดจะมีการกำหนดตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อให้ฟันเคลื่อนที่ไปตามทิศทางนั้นๆ

เหมาะกับใคร

การจัดฟันประเภทนี้เป็นที่นิยมในกลุ่มดารา นักธุรกิจที่ต้องใช้หน้าตา และความน่าเชื่อถือ เพราะสามารถจัดฟันได้โดยไม่ต้องใส่เหล็กดัดฟัน สามารถพูด หรือออกเสียงได้อย่างชัดเจน 

โดยระยะเวลาการจัดฟันจะขึ้นอยู่กับลักษณะฟัน สามารถแบ่งเป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้

  • Invisalign Express จำกัดเครื่องมือจำนวน 7 ชุด
  • Invisalign Lite จำกัดเครื่องมือจำนวน 14 ชุด
  • Invisalign Moderate จำกัดเครื่องมือจำนวน 26 ชุด
  • Invisalign Comprehensive ไม่จำกัดจำนวนเครื่องมือ

เมื่อตัดสินใจแล้วว่าต้องการจัดฟัน แนะนำให้เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ และคุณจะสามารถเดินทางมารับการรักษาได้สะดวก เนื่องจากการจัดฟันเป็นการรักษาต่อเนื่อง ใช้เวลานาน และต้องมาพบคุณหมอเป็นประจำทุก1-2 เดือน หลังจากนั้นควรนัดเข้ามาปรึกษากับคุณหมอจัดฟันเพื่อวางแผนการรักษา จนถึงขั้นตอนนี้ยังไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ หากเราตัดสินใจตกลงเริ่มจัด ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับการทำเอ็กซเรย์ ถ่ายรูป และพิมพ์ฟัน หลังจากนั้นก็เคลียร์ช่องปาก ได้แก่ การขูดหินปูน เช็คฟันผุ หากในแผนการจัดฟันต้องมีการถอนฟันก็อาจทำการถอนฟันออกก่อนเริ่มติดเครื่องมือจัดฟัน (ยกเว้นบางกรณีที่คุณหมออาจพิจารณาติดเครื่องมือจัดฟันก่อนได้)

1.   การปรึกษาจัดฟัน 

       ทันตแพทย์จัดฟันจะทำการซักถามประวัติ, ตรวจในช่องปาก, เอ็กซ์เรย์ฟันทั้งปากและกะโหลกศีรษะด้านข้าง, พิมพ์ปากทำแบบจำลองฟัน บันทึกการสบฟัน และถ่ายรูปฟันและใบหน้า เพื่อเป็นข้อมูลในการวินิจฉัยและวางแผนการรักษา ประเมินระยะเวลา และค่าใช้จ่าย ตลอดจนเปิดโอกาสให้คนไข้และผู้ปกครอง (กรณีคนไข้เด็ก) ได้เลือกและปรึกษาแผนการรักษา ถ้ามีแผนที่เป็นไปได้มากกว่า 1 แผน

UyEUy58ei171hKOmMfntji42IhPrnGAOkmk84ZQ 4lbWC0PmqtEm9xt322q2Z1IKMJCunZHWS1 EDc6wgJ7i ePkRWugVO8AAmswNlx2kA UwRyA6hPs1 7Zx7CqEoyU6QLQCAFUi9b uaoWXN78L3k

ภาพเอ๊กซเรย์กะโหลกศีรษะด้านข้าง : เพื่อดูความสัมพันธ์โครงสร้างกระดูกขากรรไกรบน-ล่าง และมุมฟันหน้าบน-ล่าง เพื่อประกอบการวางแผนการจัดฟันว่าต้องถอนฟันหรือไม่        

84hVqx9REVoNxehBC
แบบจำลองการสบฟัน

ภาพเอ๊กซเรย์ฟันทั้งปาก : เพื่อดูสภาพฟันทั้งหมด เช็คฟันคุด ฟันเกิน และดูลักษณะข้อต่อขากรรไกร                                     

2.   การเตรียมช่องปาก 

        คนไข้ต้องได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากโดยทันตแพทย์ทั่วไปก่อน ทำการเอ็กซเรย์เช็คซอกฟันผุ เนื่องจากหากมีฟันผุที่อยู่ระหว่างซอกฟันแพทย์อาจไม่สามารถมองเห็นได้ในช่องปากเพียงอย่างเดียว หากพบว่ามีฟันผุจะต้องอุดให้เรียบร้อย และขูดหินปูนให้สะอาด หากมีโรคเหงือกอักเสบจะต้องได้รับการรักษาจนถึงระดับที่สามารถควบคุมโรคเหงือกได้ก่อนเริ่มการจัดฟัน ส่วนในกรณีที่ต้องมาการถอนฟันร่วมกับการจัดฟัน อาจจะถอนก่อน หรือถอนในวันที่ติดเครื่องมือก็ได้ แล้วแต่ดุลยพินิจของทันตแพทย์

3.   การติดเครื่องมือจัดฟัน (Bracket) 

       ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ทันตแพทย์จัดฟันต้องใช้เวลาและสมาธิในการติดแบร็กเก็ต บนผิวฟันแต่ละซี่ในตำแหน่งที่เหมาะสมตามแผนการรักษา แล้วใส่ลวดจัดฟันลงไปตามร่องของแบร็กเก็ต อาจใส่ยางรัดเส้นลวดหรือไม่แล้วแต่ระบบของเครื่องมือ

4.   การปรับเครื่องมือจัดฟัน

       ภายหลังติดเครื่องมือจัดฟันครบแล้ว คนไข้จะต้องมาพบทันตแพทย์จัดฟันทุกๆ 3-4 สัปดาห์ เพื่อปรับเครื่องมือเปลี่ยนลวด เปลี่ยนยาง ในระหว่างจัดฟันคนไข้ควรจะต้องทำการตรวจฟันผุ และขูดหินปูนกับทันตแพทย์ทั่วไปเป็นปกติ ทุก 3-6 เดือน

5.   ถอดเครื่องมือจัดฟัน 

        เมื่อจัดฟันเสร็จแล้วทันตแพทย์จัดฟันจะถอดเครื่องมือจัดฟันออก ส่งคนไข้ขูดหินปูน ขัดกาว ทำความสะอาดฟันอีกครั้งก่อนใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน (Retainer) เพื่อป้องกันการล้มหรือการเกของฟัน 

6.   ปรับเครื่องมือคงสภาพฟัน

ทันตแพทย์จะนัดมาตรวจเช็ค เอ็กซเรย์ ถ่ายรูปฟันหลังจัดฟันเสร็จ และตรวจสภาพรีเทนเนอร์  หลังจากใส่ไปแล้ว 1 เดือน หลังจากนี้จะนัดให้มาตรวจสภาพ ปรับรีเทนเนอร์ทุกๆ 6 เดือน พร้อมกับการตรวจสุขภาพฟัน และขูดหินปูน

เพื่อให้เข้าใจวิธีการจัดฟันมากขึ้น ควรทำความรู้จักเครื่องมือจัดฟันร่วมด้วยเพื่อเป็นข้อมูล หากเกิดความผิดปกติจะได้ปรึกษาหรือสื่อสารข้อมูลกับทันตแพทย์ได้ง่ายขึ้น

แบร็กเก็ต (Bracket)

แบร็กเก็ต หรือเหล็กจัดฟัน เป็นอุปกรณ์ที่ติดบนตัวฟัน จะมีช่องสำหรับใส่ลวด และขอบสำหรับเกี่ยวยางจัดฟัน หรือมีประตูเปิด-ปิด แล้วแต่ระบบ บางตัวจะมีตะขอ หรือปุ่ม (Hook) ไว้สำหรับเกี่ยวยางดึงฟันเพิ่มเติมด้วย โดยแบร็กเก็ตจะมีหลายชนิด เช่น ตัวเป็นโลหะ หรือตัวเป็นเซรามิก 

ยางจัดฟัน หรือ โอริง (O-ring)

ยางจัดฟัน คือ ยางวงเล็ก ๆ ที่ใส่เพื่อยึดลวดให้อยู่ในแบร็กเก็ต โดยจะช่วยให้ฟันเรียงตัวตามตำแหน่งที่ติดแบร็กเก็ตไว้ โดยยางจัดฟันจะสูญเสียความยืดหยุ่นและเสื่อมสภาพประมาณ 3-4 สัปดาห์เมื่ออยู่ในช่องปาก จึงต้องมีการเปลี่ยนทุกเดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่ชอบรับประทานของร้อนจัดเย็นจัดยางอาจเปื่อยเร็ว

ยางจัดฟันเชน หรือ C-Chain 

เป็นยางจัดฟันที่มีลักษณะต่อยาวเป็นเส้นเดียว ทำหน้าที่รวบฟันให้ชิดกัน โดยคุณหมอมักจะใส่ยางเชนให้หลังจากที่การเรียงตัวของฟันสมบูรณ์แล้ว

ยางดึงฟัน หรือ Elastic or rubber band 

ทำหน้าที่ช่วยให้ฟันเคลื่อนเข้าที่ได้รวดเร็วขึ้น มีหลายขนาดและมีแรงดึงที่แตกต่างกัน โดยคุณหมอจะเป็นผู้กำหนดว่าเคสใดบ้างที่จำเป็นต้องใส่ยางดึงร่วมด้วย และเมื่อไหร่ถึงจะเริ่มใส่ และต้องใช้ขนาดแรงเท่าไหร่ โดยที่คุณสามารถถอดและใส่ได้ด้วยตนเอง 

แหวนจัดฟัน หรือ Band

เป็นเครื่องมือจัดฟันที่มีลักษณะเป็นวงแหวนหุ้มฟันโดยรอบ ใช้แทนที่การติดแบร็กเก็ตในฟันกราม โดยส่วนใหญ่ไม่นิยมใช้แล้วในปัจจุบัน เนื่องจากมักมีปัญหาเหงือกอักเสบ และฟันห่างหลังจากที่ถอดเครื่องมือจัดฟัน

ตัวยกฟัน หรือ raise bite

42HWxUq B8GyJqYng0uIUV8GXUOrG1xipA cH2SMmojj6hw4KeLck4WfSV3of1bRawamp8gxviuQswW3HKeZ8WPybiFDJ5MovgrYrXZrfXhHXtOfddKu4dQXrf99CXH RHCRM9XhOPvLsZ0F52pLPa0

เป็นวัสดุสีฟ้าที่คุณหมอจะติดที่บริเวณฟันกราม อาจจะเป็นฟันบนหรือล่างแล้วแต่พิจารณา เพื่อช่วยยกการสบฟัน เพื่อเป็นการป้องกันการกัดกระแทกตัวแบร็คเก็ต หลังจากติดตัวยกฟัน อาจทำให้เคี้ยวอาหารลำบากขึ้น แต่จะค่อยๆดีขึ้นเมื่อร่างกายปรับตัวได้ และคุณหมอจะเอาออกให้เมื่อไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว

หมุดจัดฟัน หรือ Minicrew

เป็นอุปกรณ์เสริมในการจัดฟัน บางเคสมีความจำเป็นต้องใช้เพื่อช่วยเป็นหลักยึดที่แข็งแรงในการดึงฟัน เช่น ในกรณีที่มีความผิดปกติของโครงสร้างร่วมด้วย ฟันยื่นมาก ฟันสบลึกมาก หรือในคนที่ไม่มีฟันหลังเป็นหลักในการดึงฟัน

เฮดเกียร์ หรือ Headgear

YlhuwzpNXfjpQmBmFpyNn0L M9Og8IMJ29q7ljd55WQltApsq8Is4kbJlAnXm26e9n

เป็นเครื่องมือพิเศษนอกช่องปากชนิดหนึ่ง ซึ่งจะใส่เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของขากรรไกรบน มักใช้ในเด็กที่มีฟันบนหรือขากรรไกรบนยื่นออกมามากกว่าปกติ โดยเด็กจะต้องใส่เครื่องมือให้ได้มากที่สุด หรืออย่างน้อย 12-14 ชั่วโมงต่อวัน (แนะนำให้ใส่หลังเลิกเรียนรวมถึงใส่นอนตอนกลางคืนด้วย)

Face mask และ Chin Cup

PZRFYbKeuFv7EOIXd3PCQoINVPnblKvqYb0tnYyW9mQJqzBSE2KRmqF9f dRbnjvLoo726VsYWpBwb2HR8uFVQ Z7rmIlItBYXy865J9JkEn2wHDW9h5COGu 5ukE2jEOE9eu9ITjg2txBcz sX ec

เป็นเครื่องมือนอกช่องปากอีกชนิดหนึ่ง  ใช้สำหรับเด็กที่มีลักษณะคางยื่น ขากรรไกรล่างยื่น ฟันล่างคร่อมฟันบน โดยการใส่เครื่องมือจะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของขากรรไกรล่าง และกระตุ้นการเจริญเติบโตของขากรรไกรบน โดยจะต้องใส่เครื่องมือให้ได้ 12-14 ชั่วโมงต่อวัน

EF braces 

C llL w 07jbIzLBuqQEP13 7a9C05pbvkklCqtILTjt Kpf9Hy4qXRK8xKOrEBbyveJJtlq4dro5GVHvIxkNzD0i0yElkcZOYPdTL0MutfWO7RKV5BH j6JDPjOAqXme1ua bfTm sJq98K7feNsgg

เป็นชุดเครื่องมือที่สามารถใช้แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูก เป็นที่ทราบกันแล้วว่ากระบวนการเจริญเติบโตของเด็กมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่าง โดยจะมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องมากน้อยตามแต่ช่วงอายุ ดังนั้น ตามหลักการแล้วหากต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าจึงต้องทำการเริ่มแก้ไขในช่วงที่เด็กยังมีการเจริญเติบโต

เครื่องมือขยายขากรรไกรบน หรือ Palatal expander 

fDvnDoFsRvJgA0dkD3jbkUTCDihTyXV5lOewK2WsunsXrC4UBbC5SdhpygZ9hFO7EC NalsKDfJaThDleojmlSXIfb9zbnj8HJC yUa0Pl0GoTO3laq4SKf5n20Mt 2yCocD g0R0uAsCClInmKbQG0
kMpD6BBl37T807oZFnaBcv4AoNVoysgj0EKWOvhxRigT5N3uVvlUzyWHEBntxwVQ4RS5EqXNhO32uJC9FcUt4Ln2wkQI8MxwNHlBeiqu2MJJzGBxsRsIOvOT9sf1kEbjyRAjMZjPBQ4vD R52YKjCGg

ใช้สำหรับขยายขากรรไกรบนที่แคบให้กว้างขึ้น เพื่อให้สัมพันธ์กับขนาดขากรรไกรล่าง และมีเนื้อที่สำหรับเรียงฟันที่ซ้อนเก เครื่องมืออาจเป็นแบบติดแน่นหรือแบบถอดได้ที่มีเครื่องมือขยายขากรรไกรอยู่ ที่กลางเพดานปาก ทันตแพทย์จะแนะนำวิธีไขสกรูที่เครื่องมือเพื่อให้เครื่องมือขยายออก และจำนวนที่ไข เช่นกี่วันต่อครั้ง ซึ่งควรปฎิบัติตามที่คุณหมอแนะนำอย่างเคร่งครัด หากลืมไขสกรู ห้ามไขเพิ่มจำนวนย้อนหลัง

  • ควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็ง เหนียวและกรอบทั้งหลาย เช่น การเคี้ยวก้อนน้ำแข็ง ถั่ว ลูกอม และหมากฝรั่ง เนื่องจากการหลุดของวัสดุจัดฟันจะก่อให้เกิดความล่าช้าในการจัดฟันได้
  • ควรเลือกรับประทานของอ่อน ๆ ขนาดชิ้นไม่ใหญ่จนเกินไป ควรตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็กพอดีคำ และเคี้ยวด้วยฟันกรามข้างหลัง
  • ในระยะแรกของการจัดฟันมักจะเจ็บฟันและอาจมีแผลเกิดขึ้นในช่องปาก ซึ่งอาการจะค่อย ๆ ทุเลาลงในสัปดาห์ที่ 2 การลดการระคายเคืองโดยนำขี้ผึ้งที่ได้รับจากทันตแพทย์จัดฟัน มาปั้นเป็นก้อนๆ แล้วปิดทับบริเวณที่แหลมคมและการดื่มน้ำให้มาก จะทำให้แผลหายเร็วขึ้น
  • ควรไปพบทันตแพทย์จัดฟันตามนัดหมายทุกเดือน
  • แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร เลือกใช้ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์ เพื่อลดการเกิดฟันผุในระหว่างการจัดฟัน
  • ในระหว่างการจัดฟัน ควรพบทันตแพทย์ทั่วไปเพื่อตรวจฟันผุทุก ๆ 3-6 เดือน และขูดหินปูน ทำความสะอาดฟัน

  • เมื่อมีอาการปวด อาการปวดนี้เกิดจากแรงที่กระทำต่อฟันหลังการปรับเครื่องมือทุกครั้ง ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของขบวนการทางชีวภาพที่ทำให้ฟันเคลื่อนไปได้ อาการเจ็บนี้จะบรรเทาลงใน 3- 5 วัน ผู้ป่วยสามารถทานยาแก้ปวด เช่น Ibuprofen หรือ Tylenol เพื่อบรรเทาอาการปวดได้ หรืออาจใช้เกลือผสมน้ำอุ่นกลั้วปาก เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด แต่หากมีอาการเจ็บปวดกะทันหัน หลังจาก 2-3 อาทิตย์ไปแล้ว ให้รีบมาพบทันตแพทย์จัดฟันทันที
  • หากมีอาการระคายเคืองภายในช่องปากเล็กๆน้อยหรือมีอาการปากเปื่อย คุณสามารถซื้อยาจากร้านขายยาทั่วไปเพื่อรักษาอาการเหล่านั้น
  • เมื่อมีการทิ่มตำของลวดบริเวณกระพุ้งแก้ม ถ้ามีลวดเส้นเล็กๆงอมาแทงริมฝีปากหรือแก้ม ให้ใช้ของไม่มีคม เช่น ยางลบปลายดินสอเช็ดแอลกอฮอล์ กดปลายลวดเข้าไป หากไม่สามารถกดปลายลวดเข้าไปได้ ให้ปิดปลายเส้นลวดด้วยขี้ผึ้ง หรือสำลีก้อนเล็กๆ แล้วรีบมาพบทันตแพทย์เพื่อแก้ไขและปรับแต่งเส้นลวดใหม่บริเวณนั้น หากคนไข้ไม่สามารถมาพบทันตแพทย์จัดฟันเพื่อแก้ไขได้ คนไข้สามารถตัดสายลวดนั้นด้วยคีมตัดลวดหรือกรรไกรตัดเล็บ
  • เมื่อแบร็กเกต หรือวงแหวนรัดฟันหลุด ถ้ามันยังคงยึดติดอยู่กับลวด ให้คงสภาพนั้นเอาไว้ ถ้ามันก่อให้เกิดความรำคาญให้ใช้ขี้ผึ้งยึดติด
  • เมื่อลวดหลุดออกจากแบร็กเกตหรือแหวนรัดฟัน ให้ลองใส่ลวดกลับเข้าที่ หากไม่สามารถทำได้ให้ใช้กรรไกรตัดเล็บตัดลวดที่ทิ่มหรือก่อให้เกิดการระคายเคืองออก

1. ทำไมใครๆก็จัดฟันกัน

      วัตถุประสงค์หลักของการจัดฟัน เพื่อแก้ไขปัญหาการสบฟันในแบบต่างๆ เช่น ฟันเก ฟันยื่น ฟันห่าง และฟันคร่อม ส่วนผลพลอยได้ที่ตามมาคือ รูปหน้าสวยขึ้น หน้าเรียว  และยังทำให้ดูแลทำความสะอาดช่องปากได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

2. อายุเท่าไรถึงจะเริ่มจัดฟันได้

      อายุที่เริ่มจัดฟันได้เริ่มตั้งแต่ 12-13 ปี ค่ะ หรือเมื่อฟันแท้ขึ้นครบ แต่ในบางกรณีควรมาปรึกษาคุณหมอจัดฟันก่อนค่ะ เช่น ในกรณีที่มีความผิดปกติมากๆอย่างเช่น ฟันซ้อน เก ยื่นมากผิดปกติ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกขากรรไกร คุณหมออาจพิจารณาให้ใส่เครื่องมือพิเศษเพื่อช่วยกระตุ้น หรือยับยั้งการเจริญโตของกระดูกขากรรไกรก่อนค่ะ

3. ถ้าอยากจัดฟันจะต้องมาพบกับหมอจัดฟันก่อน หรือว่าต้องไปเคลียร์ช่องปากก่อน

แนะนำให้พบคุณหมอจัดฟันก่อนค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อน เนื่องจากบางเคสอาจต้องมีการถอนฟันร่วมด้วย หากมีแผนการรักษาจัดฟันแล้ว จะได้ไม่ต้องอุดฟันซี่ที่จะต้องถอนอยู่แล้ว หรือในบางกรณีที่มีฟันผุลึกมากจนจะต้องรักษารากฟัน คุณหมอจัดฟันอาจพิจารณาถอนฟันซี่ที่ไม่ดีออกไป แทนที่จะถอนฟันกรามน้อยตามปกติ

4. จัดฟันใช้ระยะเวลากี่ปี

ขึ้นอยู่กับความยากง่าย และการเลือกเครื่องมือจัดฟันค่ะ ส่วนใหญ่ใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 ปีค่ะ  นอกจากในกรณีที่ไม่ต้องถอนฟัน และจัดแบบ Invisalign อาจใช้เวลาไม่ถึงปี

5. ฟันคุดซี่ในสุด ต้องผ่าออกก่อนจัดฟันมั้ย

ไม่จำเป็นต้องผ่าออกก่อนติดเครื่องมือค่ะ ยกเว้นในกรณีที่ฟันซี่ที่ติดกับฟันคุดมีรอยผุซึ่งต้องเอาฟันคุดออกก่อนถึงจะอุดได้ ส่วนใหญ่แล้วคุณหมอจะแนะนำให้เอาฟันคุดออกระหว่างจัด หรือก่อนที่จะถอดเครื่องมือเลยค่ะ เนื่องจากหลังจากที่เราเคลื่อนฟันแล้ว ในบางกรณีจะทำให้เอาฟันคุดออกได้ง่ายขึ้น

6. หากต้องมีการถอนฟัน ร่วมกับการจัดฟัน ต้องถอนเมื่อไร

ส่วนใหญ่แล้วจะแนะนำให้ถอนก่อน เนื่องจากฟันจะได้มีที่ในการเคลื่อนตัว ยกเว้นในกรณีที่คนไข้ไม่อยากให้เห็นช่องถอนฟันก่อนมีเครื่องมือจัดฟัน คุณหมออาจพิจารณาติดเครื่องมือให้ก่อนได้ค่ะ ซึ่งการติดเครื่องมือไปสักระยะหนึ่ง เมื่อฟันเริ่มมีการขยับตัว จะทำให้ถอนได้ง่ายไม่เจ็บ ไม่บอบช้ำกับฟันข้างเคียง หรือเหงือกและกระดูก 

7. ถ้าถอนฟันหลังติดเครื่องมือจัดฟันจะทำให้การจัดฟันช้ากว่าถอนก่อนติดมั้ย   

ไม่เสมอไปค่ะ แล้วแต่กรณีไปค่ะ ในกรณีที่ฟันยื่น ไม่ได้ซ้อนเก การจัดฟันในช่วงแรก เป็นการเรียงฟัน ปรับระดับของฟันให้เท่ากัน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 5-6 เดือน  เมื่อฟันเรียงตัวดีแล้ว จึงค่อยๆเริ่มเคลื่อนฟันไปปิดช่องว่าง การถอนฟันก่อนหรือหลังจัดฟัน จึงไม่ได้ทำให้การจัดฟันใช้เวลาต่างกันเลย แต่ในกรณีที่ฟันซ้อนเก การถอนฟันก่อนติดเครื่องมือจะช่วยให้ฟันที่ซ้อนเกมีที่ในการเรียงตัวได้ดีและเร็วกว่า

8. ติดเครื่องมือ บน และล่าง พร้อมกันได้มั้ย

ได้ค่ะ แต่ส่วนใหญ่คุณหมอจะแนะนำให้ติดฟันบนก่อน ทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายมีการปรับตัวเข้ากับเครื่องมือใหม่ให้ได้ก่อน ทั้งในเรื่องความตึงจากแรงเคลื่อนฟัน การรับประทานอาหาร และการดูแลรักษาความสะอาด แต่ในบางกรณีอาจจะติดเครื่องมือบนล่างพร้อมกัน เพื่อช่วยแก้ไขการสบฟันให้สำเร็จได้เร็วขึ้น

9. อยากจัดฟันแต่ไม่อยากถอนฟันได้มั้ย

ขึ้นอยู่กับความผิดปกติของการสบฟันค่ะ ในกรณีที่รูปหน้าไม่ยื่น มีเฉพาะฟันที่ซ้อนเก อาจไม่ต้องถอนฟันก็ได้ค่ะ เนื่องจากเราสามารถเรียงฟันที่ซ้อนเกได้จากการขยายขนาดขากรรไกร (ตามหลักการของเครื่องมือระบบดามอน) แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นอีกหลายอย่าง ซึ่งต้องให้คุณหมอจัดฟันเป็นผู้พิจารณาแผนการรักษาค่ะ ไม่เช่นนั้นผลการรักษาที่ได้อาจไม่สวยงามสมบูรณ์แบบนะคะ

10. จัดฟันแบบดามอน กับแบบธรรมดา ต่างกันอย่างไร

ดามอน เป็นแบร็กเก็ตประเภทหนึ่งที่ใช้การปิดเปิดประตูเพื่อใส่และยึดลวด แทนที่จะใช้ยางในการรัดลวด ทำให้มีความฝืดต่ำ ฟันเคลื่อนได้เร็ว และเจ็บน้อยกว่า  เนื่องจากไม่มีความตึงของยาง นอกจากนี้การดูแลรักษาความสะอาดจะง่ายกว่า เนื่องจากตัวเครื่องมือเป็นโลหะขนาดเล็กกว่า ไม่มีแง่ง หรือร่องสำหรับเกี่ยวยาง 

11. ดามอนมีกี่แบบ

ดามอนเป็นชื่อยี่ห้อหนึ่งของเครื่องมือจัดฟันประเภทไม่ต้องใส่ยาง (Self-ligating braces) ซึ่งจริงๆแล้วเครื่องมือประเภทนี้มีหลายยี่ห้อ หลายบริษัทที่ผลิต เช่น Empower หรือ Gemini SL แต่อาศัยหลักการทำงานที่เหมือนหรือคล้ายคลึงกันมาก

12. อยากหน้าเรียว จัดฟันช่วยได้มั้ย

ในกรณีที่ต้องมีการถอนฟันร่วมกับการจัดฟัน รูปหน้ามักจะมีการเปลี่ยนแปลงดูดีขึ้น หน้าดูเรียวขึ้นค่ะ 

13. มีฟันที่รักษาราก และทำครอบฟัน สามารถจัดฟันได้มั้ย

ถ้ารักษารากฟันมาอย่างถูกต้องไม่มีรอยโรคใดๆ สามารถเคลื่อนฟันได้ปกติค่ะ ส่วนฟันที่ทำครอบฟันมาสามารถติดเครื่องมือได้ค่ะ แต่ต้องมีน้ำยาพิเศษ สำหรับติดกับเซรามิกครอบฟัน แต่แร็กเก็ตอาจจะหลุดได้ง่ายกว่าปกติ ต้องระมัดระวังในการบดเคี้ยวมากขึ้น 

14. ใส่ฟันปลอมถอดได้ในฟันหน้า สามารถจัดฟันได้มั้ย

ได้ค่ะ ไม่ต้องกังวลส่วนใหญ่คุณหมอจะทำฟันปลอมชั่วคราวผูกติดกับลวดและแบร็กเก็ต เพื่อความสวยงามในระหว่างจัดฟันค่ะ แต่ถ้ามีฟันหน้าหายไปหลายซี่อาจจะต้องพิจารณาจัดฟันแบบอื่น เช่นจัดฟันแบบใสอินวิสไลน์ ซึ่งเราสามารถเติมฟันซี่ที่หายไปในเครื่องมือจัดฟันได้ค่ะ

15. ถ้ามีปัญหาเฉพาะฟันบน หรือฟันล่าง จัดฟันโดยการติดเครื่องมือ แค่ฟันบนหรือฟันล่าง อย่างเดียวได้หรือไม่ 

โดยส่วนใหญ่แล้ว คุณหมอมักจะต้องติดเครื่องมือทั้งฟันบนและฟันล่าง ด้วยเหตุผลที่ว่าการจัดฟันเราไม่ได้ต้องการเรียงฟันให้เรียบเพียงอย่างเดียว แต่เราต้องทำให้ฟันบนและฟันล่างสบกันอย่างถูกต้อง และสามารถใช้เคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากในบางกรณีเท่านั้น ซึ่งคุณหมอจัดฟันจะพิจารณาเป็นเคสๆไปค่ะ

16. จัดฟันแล้วทำให้มีกลิ่นปากจริงมั้ย

ไม่จริงค่ะ กลิ่นปากส่วนใหญ่แล้วเกิดจากการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากไม่ถูกวิธี หรือมีฟันผุ ซึ่งเมื่อเรามีเหล็กจัดฟันการดูแลทำความสะอาดจะยากขึ้นกว่าปกติ แต่ถ้าเราดูแลทำความสะอาดเป็นอย่างดี ใช้แปรงจัดฟัน แปรงซอกฟัน และไหมขัดฟันเฉพาะ และมาขูดหินปูน เช็คฟันผุทุกๆ 6 เดือน ปัญหากลิ่นปากก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ

17. ระหว่างการจัดฟัน สามารถขูดหินปูนได้หรือไม่ 

 ได้ค่ะ  ไม่มีปัญหา ส่วนใหญ่จะนัดให้มาขูดหินปูนในวันเดียวกันกับวันที่มาปรับเครื่องมือค่ะ คุณหมอจะเอาลวดออกให้ก่อน จะได้ขูดหินปูนได้สะอาดเกลี้ยงเกลา

18. เราสามารถย้ายคลินิกจัดฟัน ได้มั้ย

           สามารถทำได้ค่ะ แต่ต้องเข้ามาให้คุณหมอพิจารณาดูก่อนค่ะ ว่าจะสามารถทำต่อได้หรือไม่ หรือจะต้องถอดเครื่องมือเก่าออกทั้งหมดก่อน เนื่องจากเครื่องมือที่ใช้ และแผนการรักษาของคุณหมอจัดฟันแต่ละท่านอาจไม่เหมือนกัน  ทั้งนี้ควรนำเอ็กซเรย์ แบบฟันก่อนจัด และประวัติการรักษา หรือใบส่งตัวมาด้วยในวันที่จะเข้ามาปรึกษาค่ะ

19. Invisalign (อินวิสไลน์) แตกต่างจากการจัดฟันแบบใส (Clear Aligner) ชนิดอื่นอย่างไร ทำไมถึงมีราคาแพงกว่า

ในปัจจุบันมีเครื่องมือจัดฟันแบบใสในท้องตลาดมากมายหลายยี่ห้อ แต่ Invisalign (อินวิสไลน์) ถือเป็นผู้บุกเบิกระบบจัดฟันแบบใสรายแรกของโลก ได้รับความนิยมสูงสุดและให้บริการอย่างต่อเนื่องมาแล้วกว่า 20 ปี เป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของเครื่องมือจัดฟันแบบใส ปัจจุบัน Invisalign ถูกผลิตมาแล้วกว่า 4 ล้านชิ้นทั่วโลก Invisalign ทุกชิ้นถูกผลิตมาเฉพาะบุคคล โดยมีศูนย์กลางการผลิตอยู่ที่เดียวในโลก คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา การวางแผนการรักษาจะทำโดยทันตแแพทย์ผู้เชี่ยวชาญผ่านระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด เครื่องมือทุกชิ้นผลิตด้วยเครื่องจักร จึงมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพในการเรียงฟันที่จะทำให้ฟันของคุณเรียงออกมาสวยดังตั้งใจ

20. จัดฟันครั้งแรก ต้องเตรียมอะไรบ้าง  

เมื่อตัดสินใจแล้วว่าต้องการจัดฟัน สำหรับคนที่เข้ารับการจัดฟันครั้งแรก แนะนำให้คุณเลือกคลินิกที่คุณสะดวกในการเดินทางมาได้ทุกเดือน เนื่องจากการจัดฟันเป็นการรักษาต่อเนื่อง เมื่อเลือกคลินิกได้แล้วก็ต้องเตรียมตัว เตรียมสภาพฟัน หรือที่เรียกว่า การเคลียร์ช่องปาก นอกจากนี้ต้องเตรียมใจว่าในระหว่างการจัดฟัน อาจมีความเจ็บปวดจากการเคลื่อนฟัน หรือความไม่สะดวกสบายในการใช้ชีวิตในช่วงแรกๆของการจัดฟัน และสุดท้ายต้องเตรียมเงิน โดยค่าใช้จ่ายในการจัดฟันแต่ละคลินิก หรือเครื่องมือแต่ละแบบจะแตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมีระบบผ่อนชำระเป็นแบบรายเดือน

รีเทนเนอร์

dental of asian woman with tooth sample and white 2023 02 22 00 25 15 utc

รีเทนเนอร์ คือ เป็นเครื่องมือไว้คงสภาพฟัน หลังจากที่เราจัดฟันเสร็จแล้ว ช่วยยึดฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการหลังจัดฟันเสร็จ เนื่องจากตอนจัดฟัน เราเคลื่อนฟันผ่านกระดูกที่รองรับรากฟันและเหงือก ดังนั้นหลังจากจัดฟันเสร็จแล้ว เราต้องรอ “ระยะเวลา” ให้ฟันปรับตัวเข้าหากระดูก

เหตุผลที่ต้องใส่รีเทนเนอร์

  • เพื่อช่วยยึดฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการหลังจัดฟันเสร็จ เนื่องจากเหงือกและเนื้อเยื่อปริทันต์บริเวณที่ฟันเคลื่อนไปนั้นต้องการเวลาสำหรับการปรับตัวในตำแหน่งใหม่
  • หลังจากจัดฟันเสร็จ ฟันอาจอยู่ในตำแหน่งที่ยังไม่คงที่ ดังนั้นแรงจากกล้ามเนื้อรอบๆช่องปากอาจมีผลให้ฟันเคลื่อนกลับ
  • ในผู้ป่วยที่ยังมีการเจริญเติบโตอยู่ อาจมีผลต่อความไม่คงสภาพหลังจากจัดฟัน

ระยะเวลาในการใส่รีเทนเนอร์

ขึ้นอยู่กับสภาพความผิดปกติของฟันก่อนจัดฟัน โดยส่วนใหญ่คนไข้จะต้องใส่รีเทนเนอร์ตลอดเวลา ยกเว้น เวลารับประทานอาหารและแปรงฟัน เป็นเวลา 3-4 เดือน จากนั้นให้ใส่เฉพาะเวลากลางคืนหรือเวลานอนอีกประมาณ 12 เดือน ทั้งนี้แพทย์จัดฟันจะเป็นผู้ประเมินสภาพฟันและอธิบายให้ทราบหลังจัดฟันเสร็จ

การดูแลรักษารีเทนเนอร์

  • สามารถทำความสะอาดด้วยการใช้แปรงสีฟัน กับน้ำสบู่หรือยาสีฟันที่เป็นเนื้อครีม แปรงขัดบริเวณส่วนที่เป็นอะคริลิก หรือแช่ในน้ำด้วยเม็ดฟู่ทำความสะอาด และทำให้แห้งก่อนเก็บ
  • เวลาใส่รีเทนเนอร์ควรใช้มือ 2 ข้าง ใส่ให้เข้าที่ ไม่ควรใช้ฟันกัดลงมา เนื่องจากอาจทำให้รีเทนเนอร์แตกได้
  • ทุกครั้งที่ถอดรีเทนเนอร์ออก ควรเก็บในกล่องให้เรียบร้อย ไม่ควรห่อด้วยกระดาษทิชชู่ หรือใส่ในกระเป๋ากางเกง เนื่องจากอาจเผลอทิ้งลงขยะ หรืออาจทำให้ลวดผิดรูป หรือรีเทนเนอร์แตกหักได้

ชนิดของรีเทนเนอร์

1. แบบถอดได้

คนไข้สามารถถอดเครื่องมือออกมาทำความสะอาด และถอดออกได้เป็นบางโอกาส แต่มีข้อควรระวังคือเครื่องมือมีโอกาสแตกหักเนื่องจากรีเทนเนอร์ทำจากพลาสติกและลวด และมีโอกาสสูญหายได้บ่อย รีเทนเนอร์แบบถอดได้มี 2 แบบ คือ แบบพลาสติกมีลวด และแบบพลาสติใส 

vKsY8n J12 sXz r2a2zj rmHF9oo dYrziWT3ya2L3ZD14miP1193sHToqGSYnYQV6cI3t1sEuPHl 9uU4pSSYOmqZWnIL1G MNGfIevVahs1IrHXTtBrezkm j3tCPoJ2oSIqynttksminKNRUHZc
2. แบบติดแน่น

เหมาะกับคนไข้ที่ไม่มีเวลา ไม่ต้องการให้เห็นสวดขณะใส่ หรือไม่ให้ความร่วมมือในการใส่รีเทนเนอร์แบบถอดได้ โดยรีเทนเนอร์แบบติดแน่นนี้จะมีลักษณะเป็นลวดยึดติดที่ด้านในของฟัน นิยมทำในฟันหน้าล่าง เนื่องจากเป็นบริเวณที่ฟันมีโอกาสคืนกลับสภาพเดิมสูง ข้อเสียคือ ทำความสะอาดยาก และคนไข้ต้องระมัดระวังในการเคี้ยวอาหารเนื่องจากเครื่องมีอากสหลุด หรือแตกหักได้

53Mx5schFXCJztg5ZpJfs48eohOM
ข้อควรปฏิบัติในการใส่รีเทนเนอร์
  1. ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด
  2. ใส่รีเทนเนอร์ทุกวัน และใส่ตลอดวลาในช่วง 6 เดือนแรก ถอดเฉพาะเวลารับประทานอาหาร และตอนแปรงฟัน หากละเลย อาจส่งผลเสียจนต้องกลับไปจัดฟันใหม่อีกรอบ 
  3. เวลาถอดรีเทนเนอร์ ควรทำความสะอาดทันที โดยแช่น้ำไว้ในน้ำสะอาด สามารถใช้แปรงสีฟันกับน้ำสบู่ขัดบริเวณอะคริลิกได้ แล้วเช็ดให้แห้ง เก็บใน กล่องรีเทนเนอร์ ไม่ควรใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูห่อไว้ เพราะทำให้รีเทนเนอร์สกปรกและผิดรูปได้ง่าย
  4. ไม่ควรใช้น้ำยาเคมี น้ำยาบ้วนปาก ล้างทำความสะอาดรีเทนเนอร์เด็ดขาด อาจใช้เม็ดฟู่สำหรับแช่รีเทนเนอร์ได้
  5. หากรีเทนเนอร์มีความเสียหาย ให้ไปพบทันตแพทย์เพื่อทำอันใหม่ทันที

สรุปก็คือเมื่อจัดฟันเสร็จเเล้ว คนไข้ยังต้องดูเเลตัวเองหลังถอดเครื่องมือจัดฟันต่อ ทั้งการดูเเลความสะอาดเหงือก ฟันเเละรีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอ มีวินัยในการใส่รีเทนเนอร์ ทำตามคำแนะนำ ของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็จะทำให้ยิ้มสวยสดใสอยู่กับคุณไปอีกนาน

หากจัดฟันแล้วต้องใสรีเทนเนอร์ตลอดชีวิตหรือไม่

สำหรับผู้ที่จัดฟันเสร็จแล้ว คุณหมอจะแนะนำให้ใส่รีเทนเนอร์ ประมาณ 2 ปีแรกหลังจัดฟันเสร็จ โดยแล้วแต่ลักษณะฟันของแต่ละบุคคล เช่น คนที่มีฟันซ้อนเกมากๆ โดยเฉพาะบริเวณฟันหน้าล่าง อาจมีโอกาสที่ฟันจะเคลื่อนตัวกลับที่เดิม จึงควรใส่รีเทนเนอร์นานขึ้น ซึ่งทันตแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและแจ้งให้ทราบ

แต่หากคุณไม่อยากให้ฟันเคลื่อนจากตำแหน่งหลังจัดเสร็จ คุณหมอก็แนะนำให้ใส่รีเทนเนอร์ตอนนอนไปตลอด ทั้งนี้เนื่องจากโดยธรรมชาติแล้วฟันคนเราจะมีการเคลื่อนที่ได้แม้ว่าเราจะไม่เคยจัดฟันมาก่อนก็ตาม

รีเทรนเนอร์แบบลวด กับ รีเทนเนอร์ท่อสี ต่างกันยังไง

รีเทนเนอร์แบบลวด ประกอบไปด้วยวัสดุอะคริลิค และลวดโลหะ โดยบริเวณวัสดุอะคริลิคนั้นสามารถเลือกสีสันตามสไตล์ของผู้ใช้งานได้ตามความต้องการ โดยลวดบริเวณด้านหน้า สามารถใช้ปรับแก้ไขตำแหน่งฟันที่มีปัญหาเล็กน้อยได้ ส่วนรีเทนเนอร์ท่อสี เป็นรีเทนเนอร์แบบลวดอีกชนิดหนึ่ง ที่ใช้กันแพร่หลายที่สุด มีลักษณะคือ มีโครงเป็นอะคริลิคสีหรือมีลวดลายบริเวณเพดานปาก และมีส่วนที่ยึดฟันเป็นลวดเอาไว้ อาจจะมีอะคริลิคล้อมทับลวดอีกครั้ง ซึ่งอาจจะเป็นสีใสหรือเป็นสีต่างๆก็ได้แล้วแต่จะเลือก บางคนเรียกว่าท่อสี 

ข้อแตกต่างของรีเทนเนอร์แบบลวดกับแบบมีท่อสี 
DmNHXUG7Rx47TsSLPPtAS2D3OWYZkWUEPsZmfU0 tAMRjOVcqCA
lrmVQQotndtwaX1tMsg8BKIz2Rv6zg 4r174uNw9gDChA
  1. สําหรับคนที่ชอบความสวยงาม ชอบสีสัน ตัวท่อสีจะมีสีสันสวยงามมากกว่า
  2. รีเทนเนอร์ท่อสี จะเข้าไปตามร่องของฟัน ล็อกตัวฟันได้ดีกว่า แต่จะไม่สามารถปรับแก้ไขได้ถ้าเกิดฟันมีการเคลื่อนตัว  ถ้าเทียบกับตัวรีเทนเนอร์ลวดเปลือยจะสามารถให้คุณหมอปรับแก้ได้
  3. รีเทนเนอร์แบบท่อสี หากไม่ได้ใส่เป็นเวลานาน อาจใส่ไม่ได้เลย หรืออาจทำให้ฟันเคลื่อนที่ได้ เนื่องจากตัวท่อสี หรืออะคริลิกที่เป็นแง่งเข้าไปตามร่องฟันอาจผลักฟันได้ ถ้าใส่ไม่พอดี

รีเทนเนอร์แบบรับประทานอาหารได้มีหรือไม่ 

มีค่ะ โดยจะมีลักษณะเป็นรีเทนเนอร์โลหะ (Metal Retainer) โดยทำขึ้นจากวัสดุโลหะ มีลักษณะเด่นตรงที่เป็นรีเทนเนอร์สีเทามันวาวตามวัสดุที่ใช้งาน มีรูปร่างค่อนข้างบาง บางมุมอาจคล้ายกับฐานฟันปลอม 

AITTD 4oNUMGMiOV9M2cVOWp4zSvcaYM00MBf5fBXN5jKSvf00zy0kzXWAMp6h0 z K8cUfOJ0b5cMPURU4 pqzdBM
ข้อดีของรีเทนเนอร์โลหะ
  • น้ำหนักเบา ทำให้ใส่สบาย ไม่รู้สึกหนักเหงือก
  • ใช้วัสดุแข็งแรง ทำให้แตกหักเสียหายได้ยาก มีความคงทนต่อการใช้งาน
  • ทำความสะอาดได้ง่าย
  • สามารถสวมไว้ขณะรับประทานอาหารได้
  • สามารถเลือกใส่ยางเป็นวัสดุเพิ่มเติมด้วยได้ เพื่อความสวยงามและสีสันของอุปกรณ์
ข้อเสียของรีเทนเนอร์โลหะ
  • ใช้เวลาผลิตวัสดุค่อนข้างนาน ราคาแพงกว่ารีเทนเนอร์ธรรมดา
  • อาจต้องกรอเนื้อฟันธรรมชาติออกเล็กน้อย เพื่อให้สามารถใส่รีเทนเนอร์ได้แม้ในระหว่างเคี้ยวอาหาร
  • สกปรกได้ง่าย เนื่องจากในระหว่างเคี้ยวอาหารอาจมีเศษอาหารเข้าไปติดในรีเทนเนอร์ได้ ซึ่งหากทำความสะอาดฟันไม่ดีอาจก่อให้เกิดฟันผุได้ง่าย
  • ไม่มีความยืดหยุ่น เนื่องจากทำจากโลหะที่มีเนื้อแข็ง ทำให้เมื่อใส่ไปแล้ว อาจต้องมีการกลับไปปรับแก้โครงสร้างรีเทนเนอร์ซ้ำ มิฉะนั้นอาจส่งผลกระทบต่อตำแหน่งและการเรียงตัวของฟันได้
  • มีสีที่สังเกตเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับรีเทนเนอร์แบบใสที่มีเนื้อใสกลมกลืนเป็นกับเนื้อฟัน

ปัญหาการจัดฟันอื่น ๆ

braces 2022 04 25 15 17 31 utc

ฟันล่างคร่อมฟันบน เป็นความผิดปกติของการสบฟัน โดยจะมีลักษณะฟันหน้าล่างยื่นออกมามากกว่าฟันบน หรือที่เรียกว่า Crossbite โดยส่วนใหญ่เกิดจากความผิดปกติของขากรรไกรร่วมด้วย สามารถเกิดได้กับทั้งชุดฟันน้ำนม ชุดฟันผสม และชุดฟันแท้ รวมถึงพบได้ทั้งในฟันหน้าและฟันหลัง

สาเหตุการเกิดฟันล่างคร่อมฟันบน

  • กรรมพันธุ์
  • ขากรรไกรเจริญเติบโตผิดปกติ อาจเกิดจากการกระแทก หรืออุบัติเหตุตอนเด็ก
  • เกิดการสูญเสียฟันน้ำนมก่อนระยะเวลาอันควร จนทำให้มีกระดูกหรือเหงือกหนาปกคลุมหน่อฟันแท้ และทำให้กระดูกบริเวณขากรรไกรล่างเจริญเติบโตน้อย
  • กระดูกขากรรไกรบน – ล่าง มีการเจริญเติบโตไม่เท่ากัน เช่น ขากรรไกรล่างมีการเติบโตช้ากว่าขากรรไกรบน
  • เกิดความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด เช่น ปากแหว่งเพดานโหว่

ข้อเสียของการมีฟันล่างคร่อมฟันบน

  • การรับประทานอาหารลำบาก
  • มีปัญหาในด้านความสมดุลใบหน้า รู้สึกว่าหน้าเบี้ยว หรือคางยื่น
  • ทำให้มีปัญหาด้านการออกเสียง
  • อาจมีอาการปวดเรื้อรังที่ข้อต่อขากรรไกร
  • อาจมีอาการปวดศีรษะและปวดหูเรื้อรัง

อาการฟันเหยินขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง ซึ่งอาจสังเกตได้จากรูปหน้าที่ผิดปกติ เช่น หน้าสั้น หน้ากว้าง หน้าอูม มีร่องใต้คาง เป็นต้น รวมทั้งอาจเห็นเหงือกขณะยิ้มหรือพูด พูดไม่ชัดเจน กัดหรือเคี้ยวอาหารลำบาก ส่วนลักษณะที่ปรากฏในช่องปาก ได้แก่ ฟันบนสบคร่อมฟันล่าง ส่วนโค้งบริเวณเพดานปากตื้น มีร่องซึ่งเกิดจากฟันหน้าล่างสบกับเพดานปาก หรือฟันหน้าล่างซ้อนเก

การรักษาแบ่งเป็น 2 แบบ คือ

1. การจัดฟันแบบไม่ผ่าตัด

การแก้ไขฟันล่างคร่อมฟันบนนั้น จะต้องผ่าตัดหรือไม่ผ่าตัดขึ้นอยู่กับว่าความผิดปกติของขากรรไกรบนและล่างว่ามีมากน้อยแค่ไหน หากความสัมพันธ์ของขากรรไกรบนและล่างไม่ได้เหลื่อมกันมากเกินระยะที่กำหนด ก็สามารถจัดฟันอย่างเดียวโดยไม่ต้องผ่าตัดได้ แม้ว่าอาจจะดูเหมือนมีปัญหาฟันที่ซับซ้อนมาก แต่จะมีข้อจำกัดคือ มุมฟันหน้าบนจะดูยื่น หรือบานมากกว่าปกติ และมุมฟันหน้าล่างจะดูงุ้มมากกว่าปกติ ทั้งนี้จะมากหรือน้อยขึ้นกับระดับความผิดปกติของขากรรไกร แต่เมื่อจัดฟันเสร็จคุณจะสามารถใช้ฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และรูปหน้าที่ดูดีขึ้นแน่นอน

2. การจัดฟันแบบจัดฟันร่วมกับการผ่าตัด

ในกรณีที่มีความผิดปกติทางโครงสร้างเยอะ หรือคนไข้ที่ต้องการผลการรักษาที่ดีที่สุด จำเป็นต้องจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดเลื่อนขากรรไกร โดยอาจตัดเพียงขากรรไกรเดียวหรืออาจต้องตัดทั้งขากรรไกรบนและล่าง โดยปัจจุบันจะมีทั้งแบบเริ่มจัดฟันก่อนแล้วจึงไปผ่าตัดกราม หรือในบางกรณีสามารถผ่าตัดกรามก่อนแล้วจึงค่อยมาจัดฟัน ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทันตแพทย์จัดฟัน ดังนั้นจึงต้องเข้ามาปรึกษาคุณหมอจัดฟันเพื่อกำหนดแนวทางในการรักษาร่วมกันก่อนทำการรักษา เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด โดยการผ่าตัดจะเป็นการผ่าตัดใหญ่ต้องดมยาสลบและพักอยู่ที่โรงพยาบาลประมาณ 1 สัปดาห์ รวมถึงมีผลข้างเคียงของการผ่าตัด เช่น บวม ชาที่ขากรรไกร ร่วมด้วย และต้องมีการมัดฟันบนแล่างเพื่อป้องกันการขยับหลังผ่าตัดประมาณ 3-4 สัปดาห์

ฟันล่างคร่อมฟันบน ควรเริ่มรักษาตอนอายุเท่าไหร่

หากเริ่มสังเกตุเห็นความผิดปกติของขากรรไกร หรือฟันล่างครอบฟันบน หรือหากพ่อแม่ผู้ปกครองมีลักษณะดังกล่าว แนะนำให้พาเด็กเข้ามาตรวจปรึกษากับคุณหมอจัดฟันได้ตั้งแต่อายุ 6 ปีเป็นต้นไป เนื่องจากหากเด็กให้ความร่วมมือ คุณหมออาจพิจารณาให้ใส่เครื่องมือถอดได้บางชนิดก่อน เช่น ใส่เครื่องมือขยายความกว้างของขากรรไกรบน (Palatal Expander) หรือ เครื่องมือยับยั้งการเจริญเติบโตของขากรรไกรล่าง (Chin cup) หรือหากขากรรไกรบนยุบด้วย อาจใช้เครื่องมือกระตุ้นการเจริญเติบโตของขากรรไกรบน (Face mask) ทั้งนี้ วิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของความผิดปกติ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น ความร่วมมือในการใส่เครื่องมือ 

อายุมากแล้วแต่มีฟันล่างคร่อมฟันบนไม่อยากผ่าตัด จัดฟันอย่างเดียวได้หรือไม่

ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของความผิดปกติทางโครงสร้างกระดูกขากรรไกร หากอยู่ในระดับที่ี่ไม่รุนแรงมากก็สามารถจัดฟันอย่างเดียวได้ แต่ทั้งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือของคุณเป็นอย่างมาก เนื่องจากการรักษาจะไม่สามารถกระตุ้นหรือยับยั้งการเจริญเติบโตได้อีกแล้ว ดังนั้นผลการรักษาอาจต้องชดเชยในส่วนมุมฟันหน้าค่อนข้างมาก 

หน้าเบี้ยว หากไม่อยากผ่าตัดสามารถแก้ได้หรือไม่

ต้องพิจารณาก่อนว่าสาเหตุของการเบี้ยวเกิดจากอะไร หากหน้าเบี้ยวเกิดจากการสบฟันที่ผิดปกติ หรือมีจุดสะดุดทำให้เวลากัดฟันต้องเยื้องฟันไปด้านใดด้านหนึ่ง ลักษณะเช่นนี้สามารถจัดฟันแบบไม่ต้องผ่าตัดก็สามารถแก้ปัญหาหน้าเบี้ยวได้ แต่หากสาเหตุของการเบี้ยวเกิดจากโครงสร้างกระดูกขากรรไกรที่ด้านซ้ายและขวายาวไม่เท่ากัน หากเลือกจัดฟันแบบไม่ผ่าตัดก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาหน้าเบี้ยวได้ทั้งหมด

ฟันล่างคร่อมฟันบนสามารถจัดฟันแบบไหนได้บ้าง

สามารถเลือกเครื่องมือจัดฟันได้ทุกแบบค่ะ แต่ที่แนะนำคือ การจัดฟันแบบใสอินวิสไลน์ เนื่องจากสามารถควบคุมมุมฟันหน้าได้ดี หรือหากอยากจัดแบบติดเครื่องมือ แนะนำจัดฟันแบบดามอน เนื่องจากด้วยเครื่องมือดามอนจะสามารถขยายขนาดความกว้างขากรรไกรบนได้ดี และสามารถใส่ยางดึงขากรรไกรได้เร็วกว่าการจัดแบบเหล็กรัดยาง นอกจากนี้เคสลักษณะเช่นนี้ถือว่าเป็นเคสยาก ดังนั้นด้วยเครื่องมือแบบใสอินวิสไลน์ หรือดามอนจะช่วยให้ระยะเวลาในการจัดไม่นานมาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของคุณเป็นสำคัญ

ใครบ้างที่ต้องจัดฟันรอบสอง

  • ยังไม่พอใจกับผลการจัดฟันรอบแรก เช่น เคยจัดฟันแบบไม่ถอนฟัน พออายุมากขึ้นรู้สึกฟันยื่นมากกว่าเดิม หรือบางคนเคยจัดฟันแบบถอนฟันเกินความจำเป็นทำให้ฟันงุ้ม
  • ฟันล้ม ห่าง หรือบิดซ้อนเก เนื่องจากไม่ใส่รีเทนเนอร์ หรือรีเทนเนอร์หลวม ผิดรูป

 จัดฟันรอบสองง่ายหรือยากกว่าจัดรอบแรก

ความยากง่ายจะขึ้นอยู่กับสภาพฟัน เช่น หากฟันเคลื่อนที่จากตำแหน่งเดิมเพียงเล็กน้อยก็จะง่าย บางครั้งอาจใช้เวลาเพียง 4-6 เดือนเท่านั้น(ด้วยการจัดฟันแบบใสอินวิสไลน์) แต่่หากสภาพฟันยังมีความผิดปกติเหลืออยู่เยอะ เนื่องมาจากการวางแผนการจัดฟันรอบแรกไม่ถูกต้อง การจัดฟันรอบสองก็จะยากกว่่ามาก เช่น ฟันยังยื่นอยู่เนื่องจากจัดรอบแรกไม่ได้ถอนฟัน อาจเนื่องมาจากตอนเป็นเด็กกลัวเลยไม่อยากถอน ทำให้หากต้องการจัดฟันใหม่ต้องถอนฟันร่วมด้วย ระยะเวลาจึงอาจนานกว่ารอบแรก 

ข้อดีของการจัดฟันรอบสอง

  • สามารถแก้ไขปัญหาที่คุณไม่พอใจจากการจัดฟันรอบแรก แต่ต้องปรึกษากับคุณหมอก่อน
  • เมื่อการเรียงตัวของฟันสวยขึ้น คุณก็จะมีความมั่นใจ กล้ายิ้ม มีบุคลิกภาพดีขึ้น
  • ในบางเคสที่การจัดฟันครั้งแรกทำให้มีปัญหาการสบฟัน เมื่อจัดฟันรอบสองเสร็จก็จะช่วยให้ประสิทธิภาพการบดเคี้ยวดีขึ้น
  • มีรูปหน้าที่ดูดีขึ้น หากการจัดฟันทำให้ฟันงุ้ม เมื่อได้รับการจัดฟันรอบสองแก้ไขมุมฟัน ก็จะทำให้รูปหน้าดูดีขึ้น หรือในคนที่จัดรอบสองโดยต้องมีการถอนฟันร่วมด้วย หลังจัดเสร็จรูปหน้าก็จะดูเรียวขึ้น

ข้อเสียของการจัดฟันรอบสอง

การจัดฟันอาจมีข้อเสียคืออาจมีการละลายของรากฟัน โดยส่วนใหญ่มักจะเกิดในเคสที่จัดฟันแบบเหล็กรัดยางเป็นเวลานานๆ ไม่ค่อยไปพบคุณหมอตามนัดทุกเดือน ทำให้แรงที่ดึงฟันไม่เป็นไปตามแผนการรักษา ซึ่งหากรากฟันสั้นลงก็จะส่งผลให้ความแข็งแรงของฟันน้อยลง ดังนั้นหากต้องจัดฟันรอบสองก็จะมีความเสี่ยงที่รากฟันจะละลายเพิ่มขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้วคุณหมอจะตรวจประเมินสภาพความแข็งแรงของฟันก่อนว่ายังสามารถเคลื่อนได้อย่างปลอดภัยหรือไม่

ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันรอบสอง

ขึ้นอยู่กับความยากง่าย และเครื่องมือที่จะเลือกใช้ในการจัดฟันรอบสอง 

ดยปกติแล้ว คนที่จัดฟันจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเหงือกอักเสบและฟันผุได้สูงกว่าคนทั่วไป เนื่องจากเครื่องมือจัดฟันที่ติดแน่นอยู่บนฟันอาจทำให้การทำความสะอาดฟันทำได้ยากขึ้น ผู้ที่จัดฟันจึงต้องพิถีพิถันในการดูแลสุขภาพช่องปากเป็นพิเศษ ดังนั้นคนที่อยากติดเครื่องมือจัดฟันเพียงเพื่อความสวยงาม หรือเป็นแฟชั่น จึงไม่แนะนำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากอาจเกิดผลเสียตามมามากมาย เช่น

1. ฟันผุ เหงือกอักเสบ มีกลิ่นปาก

การติดเครื่องมือจัดฟันที่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน จะทำให้เราทำความสะอาดช่องปากลำบากและผิดวิธี เมื่อแปรงฟันไม่สะอาด มีเศษอาหารสะสม จึงเกิดปัญหาฟันผุและเหงือกอักเสบบวมแดงตามมา ซึ่งปัญหาฟันผุนี้ยังทำให้มีกลิ่นปากได้อีกด้วย

2. เกิดแผลติดเชื้อเรื้อรัง

เหล็กจัดฟันที่ร้านจัดฟันเถื่อนส่วนใหญ่ มักไม่ใช่เครื่องมือแพทย์ เนื่องจากลวดที่ใช้จริง ๆ จะมีราคาสูงและต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้นเหล็กจัดฟันที่นำมาใช้จึงเป็นเพียงลวดธรรมดา ซึ่งหากใช้ไปนาน ๆ จะขึ้นสนิมได้ ลองคิดดูว่าถ้าลวดสนิมเข้าไปอยู่ในช่องปากของเราจะเป็นอย่างไร นอกจากนี้ลวดที่ใช้อาจกดหรือทิ่มเหงือก ทำให้เกิดแผลที่กระพุ้งแก้ม แผลในช่องปากแบบเรื้อรัง

3. ฟันตาย รากฟันละลาย

 หากผู้ไม่มีความรู้มาจัดฟันให้แล้วใช้แรงที่มากเกินไปในการเคลื่อนฟันจะทำให้รากฟันละลาย นอกจากนั้นยังสามารถทำให้ฟันตายได้ ทำได้แค่ถอนฟันซี่นั้นทิ้งไป

4. ฟันเรียงตัวผิดรูป

ใครคาดหวังว่าการจัดฟันแฟชั่นจะทำให้ฟันเรียงตัวสวยงามคงต้องคิดดูใหม่ เพราะมีหลายเคสทีเดียวที่จัดฟันแฟชั่นออกมาแล้ว ฟันกลับเรียงตัวตรงอย่างกับไม้บรรทัด หรือที่เรียกว่า “ฟันจอบ” นั่นก็เป็นเพราะลวดที่ใช้ไม่ได้มาตรฐาน พอใช้ไปสักพักหนึ่ง ลวดจะคืนตัว กลายเป็นว่าไปดึงฟันของคนใส่ให้เป็นเส้นตรงไปแทน ต่างจากคลินิกทำฟันที่จะใช้โลหะพิเศษที่คืนรูปได้ ทำให้จัดฟันออกมาแล้วฟันเรียงตัวเป็นระเบียบสวยงาม แถมบางรายยังใช้กาวตราช้างติดเครื่องมือเข้ากับฟันซะอีก ทำให้ทั้งเหงือก ทั้งฟันมีปัญหา พังทั้งปาก เคสนี้นอกจากทันตแพทย์อาจไม่สามารถแก้ไขให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ แถมยังต้องเสียเงินเสียทองแพง ๆ เป็นค่ารักษาด้วย 

5. ไตเสื่อม เสี่ยงมะเร็ง

น้ำลายในช่องปากอาจทำให้สารเคลือบสีหรือเคลือบลูกปัดบนลวดละลายออกมา แล้วเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เราสะสมสารเคมีต่าง ๆ ไว้ ที่น่ากลัวก็คือ มูลนิธิคุ้มครองเพื่อผู้บริโภคและวารสารฉลาดซื้อ ได้ทำการทดสอบสินค้าจัดฟันแฟชั่นเมื่อเดือนมีนาคม 2560 พบว่า ในอุปกรณ์จัดฟันแฟชั่นนั้นมีสารแคดเมียมที่เป็นอันตราย หากสะสมไว้ในร่างกายเป็นระยะเวลานาน ๆ สารนี้จะไปสะสมอยู่ในกระดูก ทำให้กระดูกเปราะ หักง่าย เจ็บปวดกระดูกทั่วร่างกาย ทำให้ไตเสื่อม และยังเพิ่มโอกาสเสี่ยงมะเร็งปอด มะเร็งไต มะเร็งต่อมลูกหมาก 

นอกจากสารแคดเมียมแล้ว การใช้ลวดจัดฟันที่มีคุณภาพต่ำ อาจมีสารปนเปื้อนอื่น ๆ เช่น ตะกั่ว สารหนู พลวงซิลิเนียม ปรอท โครเมียมได้อีก ซึ่งหากสารเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายจะเป็นอันตรายต่อไต ทำให้ไตวาย และเป็นตัวการหนึ่งของโรคมะเร็งได้เลย

6. เสี่ยงติดเชื้อในกระแสเลือด

เคสนี้เคยปรากฏเป็นข่าวหน้าหนึ่งมาแล้ว เนื่องจากวัสดุที่ใส่เข้าไปในช่องปากไม่ได้มาตรฐาน และไม่สะอาดพอ เช่น ใช้ลวด ยาง หรือลูกปัดสี ๆ ที่ไม่ได้มาตรฐาน เมื่อถูกน้ำลายชะล้างหรือทานของเปรี้ยว ๆ ก็จะทำให้สารเคมีในลูกปัดละลายเร็วขึ้นแล้วไปสะสมในร่างกาย จนเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดเสียชีวิตได้  รวมทั้งขั้นตอนการทำในร้านจัดฟันเถื่อนอาจไม่ได้มีการล้างมือหรือล้างอุปกรณ์ฆ่าเชื้อโรคก่อน เช่น การพิมพ์ปากด้วยแม่พิมพ์ที่ไม่สะอาด ใช้ร่วมกันหลายคน อาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้

7. อุปกรณ์อาจหลุดลงคอเสียชีวิต 

การให้ผู้ที่ไม่มีความรู้ทางทันตกรรมมาจัดฟัน หรือใช้เครื่องมือไม่ได้มาตรฐาน อาจเสี่ยงต่อการที่เครื่องมือจัดฟันจะหลวม เพราะติดไม่แน่น ทีนี้เวลาเราเคี้ยวข้าวหรือนอนหลับ เครื่องมือเหล่านี้อาจหลุดลงคอ ทำให้หายใจไม่ออกจนเสียชีวิตได้เลย

คือภาวะที่ยิ้มแล้วจะเห็นเหงือกบนมากกว่าปกติ โดยคนปกติเวลายิ้มจะเห็นเหงือกไม่เกิน 4 มม. ทำให้เวลายิ้มแล้วไม่สวยงาม ทำให้ขาดความมั่นใจในการใช้ชีวิตหรือแม้กระทั่งพบปะผู้คนไม่ว่าจะเป็นการสบตา ยิ้ม หัวเราะ 

สาเหตุของภาวะยิ้มเห็นเหงือก

  • กระดูกขากรรไกรบนยื่นมาด้านหน้าหรือห้อยต่ำกว่าปกติ
  • เหงือกโตมากเกินไป อันเนื่องจากการใช้ยาบางชนิด หรือจากการจัดฟัน 
  • เหงือกอักเสบจากการแปรงฟันไม่สะอาด ทำให้เหงือกบวมขึ้นมาคลุมบริเวณฟันหน้า
  • ภาวะเหงือกหนาหรือฟันงอกออกมาจากเหงือกน้อยไปจึงทำให้เห็นตัวฟันสั้น
  • ภาวะกล้ามเนื้อริมฝีปากมีกำลังมากเกิน ทำให้ริมฝีปากบนยกตัวสูงมากไปขณะยิ้ม

การแก้ไขปัญหาการยิ้มเห็นเหงือก

1. ฉีดโบท็อกซ์ วิธีการนี้เป็นวิธีที่ง่าย ไม่มีการผ่าตัดแต่อย่างใด

เหมาะในคนที่ยิ้มเห็นเหงือกไม่มาก กระดูกขากรรไกรบนไม่ยื่น ไม่หนามากจนเกินไป

แต่เนื่องจากฤทธิ์ของโบท็อกซ์ก็จะอยู่ได้ไม่นานนัก ดังนั้นก็อาจจะต้องฉีดทุกหกเดือนหรือหนึ่งปี

2. ตกแต่งขอบเหงือกที่คลุมตัวฟันออก

กรณีนี้ส่วนใหญ่จะใช้ได้กับคนที่มีเหงือกหนามากเกินไป

แต่โครงสร้างขากรรไกรบนปกติเท่านั้น

วิธีการตกแต่งเหงือกมี 2 วิธี

1การตกแต่งขอบเหงือกด้วยใบมีด

2 การตกแต่งขอบเหงือกด้วยเลเซอร์

วิธีนี้ปัจจุบันเป็นที่นิยมมากกว่าเนื่องจากเจ็บน้อย แผลหายเร็ว

ระหว่างที่เลเซอร์ทำงานก็จะช่วยห้ามเลือดไปด้วยในตัว

ทำให้ไม่มีปัญหาเลือดไหล ใช้เวลาก็น้อยมากด้วย แผลจะหายเป็นปกติใน 1-2 สัปดาห์

3. การตัดแต่งกระดูกและตกแต่งเหงือกที่คลุมตัวฟันออก

วิธีนี้จะใช้กับคนที่มีเหงือกบาง โครงสร้างขากรรไกรไม่ยื่นมากเช่นกันแต่จะซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อยเพราะจะต้องมีการตกแต่งรูปร่างของกระดูกขอบเหงือกร่วมด้วย วิธีการนี้จึงเป็นการผ่าตัดเล็กๆ ที่ต้องมีการเย็บแผลด้วย โดยแผลก็จะหายเป็นปกติใน 2-4 สัปดาห์

4. การจัดฟัน

การจัดฟันเป็นการแก้ไขตัวฟันที่ยื่น หรือยาวห้อยลงมา การจัดฟันสามารถช่วยดันฟันถอยเข้าหรือหุบขึ้นไปในตำแหน่งที่เหมาะสมได้ ทั้งนี้อาจต้องมีการใช้หมุดจัดฟัน ช่วยในการดึงฟันให้เข้าที่ร่วมด้วย

5. การเย็บริมฝีปากบนเพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของริมฝีปากบน

หรือที่เรียกว่า  Lip repositioning วิธีนี้จะเหมาะกับคนที่ยิ้มแล้วริมผีปากยกขึ้นสูงมากๆ ซึ่งมักมีขากรรไกรบนที่หนาร่วมด้วย ซึ่งนับว่าเป็นการผ่าตัดเล็กที่ช่วยลดการยิ้มเห็นเหงือกได้ดีทีเดียว

6. การจัดฟันร่วมกับการตัดแต่งเหงือกและกระดูกที่คลุมตัวฟันออก

ก็เป็นการใช้สองเทคนิคร่วมกันในการรักษา

คือทั้งการจัดฟันและการผ่าตัดขอบเหงือกร่วมด้วย

วิธีนี้เป็นการรักษาในคนไข้ที่ฟันและกระดูกขากรรไกรยื่นยาว

ร่วมกับการมีเหงือกที่หนาหรือตัวฟันสั้น

ก็จะใช้ระยะเวลาในการรักษาที่นานขึ้นตามไปด้วย

7. วิธีสุดท้าย คือการผ่าตัดขากรรไกร

ข้อนี้เป็นกรณีที่ยากที่สุดคือคนไข้มีโครงสร้างขากรรไกรบนที่ยื่นยาวผิดปกติมากๆ จำเป็นต้องรักษาด้วยการจัดฟันและการผ่าตัดขากรรไกรบนร่วมด้วย

ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีการรักษา การยิ้มเห็นเหงือก ทุกรูปแบบตั้งแต่ง่ายที่สุดไปจนถึงยากที่สุด

ทั้งนี้คุณหมอจะพิจารณาวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละคน

การจัดฟันแบบดิจิตอล มี 2 แบบ คือ Invisalign และ Brava

การจัดฟันแบบใสอินวิสไลน์ (Invisalign)

04services

จัดฟันแบบใสอินวิสไลน์ เป็นการจัดฟันแบบถอดได้ มีลักษณะเป็นถาดจัดฟันแบบใส และถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ โดยแสดงสามารถแสดงให้เห็นแผนการรักษา และระยะเวลาในการจัดที่ชัดเจน นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นผลลัพธ์ภายหลังการจัด โดยออกแบบเป็นวิดีโอ 3 มิติ การจัดฟันแบบใสอินวิสไลน์ จะทำให้ฟันของคุณเรียงตัวสวยโดยที่คนอื่นไม่รู้ ซึ่งมีความแตกต่างจากการจัดฟันแบบเหล็กทั่วไป

อินวิสไลน์ เป็นเครื่องมือจัดฟันแบบใสที่ถอดได้ชนิดหนึ่ง ซึ่งใช้นวัตกรรมของเครื่องมือแบบถอดได้ ที่เรียกว่า SmartTrack technology ที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถคืนรูปเดิมได้ (shape memory) แม้ว่าฟันจะซ้อนเกมาก นอกจากนี้ตัวเครื่องมือสามารถส่งผ่านแรงชนิดเบาแบบต่อเนื่อง (light continues force) ทำให้การเคลื่อนฟันเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยแรงจากเครื่องมือจะส่งผ่านตัว attachment หรือปุ่มบนฟัน ที่จะคอยควบคุมทิศการเคลื่อนฟันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และได้ผลลัพธ์ตามที่ได้วางแผนไว้ด้วยเทคโนโลยีSmartForceTM Attachmentsจะช่วยคำนวณแรงการเคลื่อนฟันอย่างนุ่มนวล และคาดการณ์ได้

SmartForceTM Attachments คือ ปุ่มขนาดเล็ก สีเหมือนฟัน ที่ติดบนฟันบางซี่ก่อนที่จะเริ่มต้นการจัดฟันใส แทบมองไม่เห็น โดย SmartForceTM Attachments มีหน้าที่ในการช่วยเคลื่อนฟัน และจะถูกใช้ตามดุลยพินิจของทันตแพทย์ แต่ไม่จำเป็นต้องติด SmartForceTM Attachments ทุกคน

รักษาได้ทุกปัญหาตั้งแต่ง่ายไปถึงยาก แก้ไขปัญหาฟันง่ายๆ
สามารถเคลื่อนฟันได้ทุกซี่เคลื่อนฟันได้เฉพาะบางตำแหน่ง เช่นฟันหน้า
ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกาไม่ระบุ
มีงานวิจัยรองรับหลายฉบับไม่ระบุ
ประสบการณ์มากว่า 25 ปีไม่ระบุ
วัสดที่ใช้เป็น multi-layerไม่ระบุ
SmartTrack™ material
ขอบถาดจัดฟันคลุมเฉพาะฟันขอบถาดจัดฟันคลุมไปถึงเหงือก
มีคนไข้ที่ทำการรักษาแล้วกว่า 14 ล้านคนไม่ระบุ

เนื่องจากตัวเครื่องมือ การจัดฟัน invisalign มีความใส สามารถถอดเข้าถอดออกได้ จึงเหมาะกับบุคคลหลายประเภท

  • ดารา นักแสดง นางแบบ ผู้บริหาร แอร์โฮสเตส หรือกลุ่มอาชีพที่ไม่ต้องการให้เห็นเครื่องมือจัดฟัน
  • ผู้ใหญ่ที่อยากเริ่มจัดฟัน แต่่กลัวเจ็บ หรือดูไม่น่าเชื่อถือหากต้องใส่เหล็กจัดฟัน
  • วัยเด็กที่อยากเริ่มจัดฟัน ซึ่งตัวเครื่องมือสามารถถอดเข้าออกได้ จึงสามารถแปรงฟันได้ปกติ ลดโอกาสการเกิดฟันผุ
  • นักกีฬาหรือเด็กที่เล่นกีฬา ลดโอกาสการเกิดการบาดเจ็บหากมีการกระแทกบริเวณปาก
  • ผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาเดินทางมาพบทันตแพทย์ เช่น อยู่ต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ
  • ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการถอนฟัน โดยอาศัยวิธีการตะไบฟัน หรือขยายฟันออกด้านข้าง หรือถอยฟันกรามเข้าไปด้านหลัง ในบางเคส
  • ผู้ที่ไม่ต้องการให้การจัดฟันกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน  เนื่องจากเครื่องมือจัดฟันอินวิสไลน์สามารถถอดออกได้ สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ โดยไม่มีข้อห้าม หรือต้องหลีกเลี่ยงอาหารเหนียวและแข็ง รวมถึงสามารถถอดออกมาแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันได้ตามปกติ
  • แทบจะมองไม่เห็น : วัสดุใสแทบมองไม่เห็น ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถยิ้มได้อย่างเปิดเผย
  • สามารถถอดออกได้ : วัสดุทำจาก SmartTrackTM ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่น ง่ายต่อการถอดและสวมใส่เป็นอย่างมาก ซึ่งแตกต่างจากการจัดฟันแบบเหล็กที่ต้องใส่ติดกับฟันตลอดเวลา ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารที่คุณชื่นชอบได้โดยไม่มีข้อจำกัด
  • ความเจ็บปวด หรือการระคายเคืองในช่องปากน้อยมาก : ระบบจะคิดคำนวณแรงที่เหมาะสมในการเคลื่อนที่ของฟัน โดยจะเคลื่อนฟันอย่างนุ่มนวล และเนื่องจากไม่มีเหล็กและลวดจึงไม่เกิดการระเคืองในช่องปาก
  • ระยะเวลารักษาที่ชัดเจน : ด้วยโปรแกรม ClinCheck3D คุณสามารถเห็นภาพทุกขั้นตอนของการรักษา ทราบระยะเวลาในการรักษาที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนการจัดฟันแบบเหล็ก คุณจะทราบระยะเวลาในการรักษาโดยประมาณในตอนช่วงเริ่มต้นของการรักษาเท่านั้น
  1. Comprehensive treatment : เป็นการจัดฟันแบบใสที่สามารถแก้ไขปัญหาฟันที่ซับซ้อนได้ เช่น ฟันสบลึก ฟันสบเปิด ฟันยื่นเยอะ ฟันล่างคร่อมฟันบน หรือในเคสที่ต้องมีการถอนฟันร่วมกับการจัดฟัน  โดยไม่จำกัดจำนวนเครื่องมือ
  2. Moderate treatment : เป็นการจัดฟันแบบใสที่แก้ไขปัญหาฟันที่ซับซ้อนระดับปานกลาง โดยจะจำกัดจำนวนเครื่องมือ 26 ชุด
  3. Lite treatment : เป็นการจัดฟันแบบใสที่แก้ไขปัญหาระดับน้อยถึงปานกลาง โดยจะจำกัดจำนวนเครื่องมือ 14 ชุด
  4. Express treatmnent : เป็นการจัดฟันแบบใสที่แก้ไขปัญหาระดับน้อยๆ เช่น เคสที่เคยจัดฟันมาแล้ว แต่ไม่ใส่รีเทนเนอร์ทำให้ฟันเคลื่อนที่ออกจากตำแหน่งเดิมเพียงเล็กน้อย โดยจะจำกัดจำนวนเครื่องมือเพียง 7 ชุด

โดยส่วนใหญ่แล้วคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินสภาพฟันก่อนว่าจะต้องเลือกจัดฟันแบบใด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับความยากง่ายในการจัด โดยค่าใช้จ่ายก็จะแตกต่างกันตามลำดับความยากง่ายเช่นกัน

  1. ปรึกษากับคุณหมอจัดฟันเบื้องต้น คุณหมอจะทำการตรวจสภาพฟัน ถ่ายรูป เอ็กซเรย์ฟัน และสแกนฟัน 3 มิติด้วยเครื่องสแกน iTero Element™ เพื่อวางแผนการรักษาอย่างมีขั้นตอนเพื่อมอบรอยยิ้มใหม่ที่สดใสกว่าของคุณ
  2. ภายหลังจากสแกนฟัน 1-2 สัปดาห์ ทันตแพทย์จะสร้างแผนการรักษา 3 มิติ ผ่านโปรแกรม 3D Clincheck โดยคุณสามารถเห็นผลลัพธ์ภายหลังจัดฟันเสร็จ ทำให้ทราบแผนการจัดฟันที่แน่ชัด และระยะเวลาในการจัดฟันที่ชัดเจน หลังจากที่ดูแผนการรักษาแล้วเครื่องมืออุปกรณ์จัดฟันแบบใสของคุณะจะถูกผลิตและส่งมาที่คลินิกจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์
  3. คุณหมอจะมอบอุปกรณ์จัดฟันแบบใสอินวิสไลน์ให้คุณ และอธิบายวิธีการใส่ ถอด การดูแลเครื่องมือ และข้อควรปฏิบัติทั้งหมด 
  4. ส่วนใหญ่แล้วในกระบวนการรักษาอาจต้องมีการติดปุ่มช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเคลื่อนฟัน (Attachments) ซึ่งคุณหมอจะทำการติดปุ่ม หรือแต่งฟัน (Interproximal reduction) ตามแผนการรักษาที่ได้วางไว้ และจะนัดพบคุณหมอเพื่อเช็คทุก ๆ 6-8 สัปดาห์โดยประมาณ เพื่อติดตามความคืบหน้าของการรักษาและรับอุปกรณ์จัดฟันแบบใส invisalign ชุดถัดไป ในกรณีที่คุณไม่สามารถมาตรวจเช็คได้ คุณสามารถแจ้งคุณหมอเพื่อรับอุปกรณ์จัดฟันใสไปทั้งหมดได้

การสแกนที่ทันสมัยของ iTero Element™ ได้จากการประมวลผลของภาพ 6,000ภาพ ต่อวินาที

ช่วยให้ทันตแพทย์วางแผนการรักษาโดยใช้ โปรแกรม ClinCheck® ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยคุณสามารถเห็นภาพฟันภายหลังจากจัดฟันเสร็จ ด้วยโปรแกรม Outcome Simulator ทำให้คุณสามารถเห็นภาพฟันของคุณ และสามารถช่วยออกแบบรอยยิ้มให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะคุณได้

  1. คุณควรใส่เครื่องมือจัดฟัน 20-22 ชั่วโมงต่อวันระหว่างการรักษาของคุณเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และเห็นผลตามเวลาที่กำหนด
  2. คุณสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ โดยสามารถถอดออกได้ขณะรับประทาน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องอดอาหารที่คุณชอบ
  3. ในระหว่างที่ใส่เครื่องมืือไม่แนะนำให้ดื่มเครื่องดื่มที่มีสี มีน้ำตาล ร้อนจัด เย็นจัด สูบบุหรี่ หรือเคี้ยวหมากฝรั่ง เนื่องจากอาจทำให้เครื่องมือบิดเบี้ยว หรือติดสี และอาจทำให้เกิดฟันผุ หรือด่างได้
  4. การทำความสะอาดเครื่องจัดฟันใส ให้ใช้แปรงสีฟัน และน้ำสบู่ หรือใช้เม็ดแช่ทำความสะอาดสำหรับเครื่องมือจัดฟันใสโดยเฉพาะร่วมด้วย
  5. ทุกครั้งที่ถอดเครื่องมือ ให้เก็บใส่กล่องทันที ไม่ควรห่อกระดาษทิชชู่่ เนื่องจากคุณอาจลืมทิ้งไป หรือเครื่องมืออาจแตกหักได้
  6. หากคุณทำเครื่องมือหาย หรือแตก ให้นำเครื่องมือชุดถัดไปมาใส่ต่อทันที หรือหากไม่มี ให้รีบแจ้งทางคลินิก เพื่อมารับเครื่องมือเพิ่ม โดยในระหว่างนี้ให้นำเครื่องชุดก่อนหน้านี้มาใส่ไว้ก่อน
  • แนบเนียน
  • วัสดุใส แทบมองไม่เห็น
  • มีความแข็งแรงทนทานมากกว่ารีเทนเนอร์ใสทั่วไปถึง 30%
  • กระชับพอดีกับทุกรายละเอียดรอยยิ้มของคุณ 
  • ให้รอยยิ้มสวย ยาวนาน
  • เห็นผลได้ในระยะยาว โดยจะมีรีเทนเนอร์ให้ทั้งหมด 3 ชุด หากคุณทำหาย หรือทำแตกก็มีรีเทนเนอร์ชุดใหม่ใส่ได้ทันที
  • โอกาสที่ฟันจะล้มหรือเคลื่อนที่น้อยมาก เนื่องจากเก็บข้อมูลฟันเป็นไฟล์ หากคุณต้องการทำรีเทนเนอร์ใหม่ สามารถสั่งผลิตจากไฟล์ข้อมูลเดิมได้ทันทีไม่ต้องพิมพ์ปาก หรือสแกนฟันใหม่

เมื่อคุณได้เปลี่ยนรอยยิ้มใหม่ให้สดใสด้วยการจัดฟันใส Invisalign® คราวนี้ก็เป็นเรื่องง่าย ที่จะรักษารอยยิ้มของคุณด้วย รีเทนเนอร์ Vivera™

การจัดฟันแบบใสอินวิสไลน์สามารถแก้ไขปัญหาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่สามารถจัดในเคสที่มีปัญหาฟันซับซ้อนมากจริงหรือไม่

ไม่จริงค่ะ เครื่องมือจัดฟันแบบใสอินวิสไลน์สามารถเคลื่อนฟันได้ทุกมิติเช่นเดียวกับการจัดแบบเหล็ก สามารถแก้ไขปัญหาฟันที่ซับซ้อนมากได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ความชำนาญของคุณหมอด้วยค่ะ คุณสามารถดูเคสตัวอย่างของคุณหมอที่คลินิกเราได้ค่ะ Link case gallery

ตอนนอนต้องใส่เครื่องมือหรือไม่

การใส่เครื่องมือจัดฟันแบบใส หรือที่เราเรียกว่า “เทรย์” ต้องใส่ตลอดเวลา ถอดได้เฉพาะตอนรับประทานอาหาร และตอนแปรงฟันเท่านั้น ในแต่ละวันต้องใส่ให้ครบ 20-22 ชั่วโมงค่ะ

หลังจากที่เอาเครื่องมือจัดฟันเหล็กออก แต่ฟันยังไม่เข้าที่ การจัดฟันแบบใสอินวิสไลน์จะสามารถแก้ไขปัญหาได้หรือไม่?​

ได้ค่ะ เนื่องจากการจัดฟันแบบใสอินวิสไลน์ คุณหมอจะออกแบบการรักษาโดยโปรแกรม Clincheck 3D ทำให้คุณสามารถเห็นผลการรักษา รวมถึงองศาฟันแต่ละซี่ก่อนที่จะสั่งผลิตเครื่องมือ ดังนั้นคุณสามารถร่วมวางแผนการรักษากับคุณหมอได้ค่ะ ตย.

เคยจัดฟันมาแล้วแต่รู้สึกยิ้มแล้วไม่สวย ไม่มั่นใจ รู้สึกฟันงุ้ม อินวิสไลน์สามารถช่วยแก้ไขได้หรือไม่

ในบางกรณีที่การจัดฟันรอบที่แล้วมีการถอนฟันโดยไม่จำเป็น อาจเป็นเหตุให้เกิดปัญหาฟันล้ม ฟันงุ้มได้ ที่พบบ่อยได้แก่ จัดฟันรอบที่แล้วมีการถอนฟันกรามน้อยไป 4 ซี่ แต่ไม่สามารถปิดช่องถอนฟันได้หมด หรือถ้าปิดได้ฟันหน้ามักจะงุ้ม หรือสบลึก การจัดฟันแบบใสอินวิสไลน์จะช่วยปรับมุมฟันได้ดี และแก้ปัญหาเรื่องฟันสบลึกได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อย่างอื่นช่วย เช่นหมุดจัดฟัน ทำให้คุณรู้สึกสบาย ไม่เจ็บในระหว่างการจัดฟัน นอกจากนี้การมีโปรแกรม 3D Clincheck ยังช่วยให้คุณหมอวางแผนการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณได้ เช่น ในบางเคสคุณหมออาจจะวางแผนเปิดช่องเพื่อใส่ฟันกลับไป หากไม่สามารถแก้ปัญหาฟันงุ้มได้ ตย.

อายุเท่าไหร่ถึงจะเริ่มจัดฟันด้วยอินวิสไลน์ได้

ปัจจุบันเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีเป็นตันไปสามารถกจัดฟันแบบใสอินวิสไลน์ได้ด้วย InvisalignFirst โดยทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพฟัน และการให้ความร่วมมือของเด็ก เช่นในกรณีที่เด็กมีปัญหาในเรื่องโครงสร้างขากรรไกร การที่เราเริ่มจัดฟันตั้งแต่ยังเด็กจะช่วยกระตุ้น หรือยับยั้งการเจริญเติบโตของขากรรไกรที่ผิดปกติได้ หรือในกรณีที่เด็กมีการสบฟันที่ปกติ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดอันตรายกับฟันแท้ การเริ่มจัดฟันตั้งแต่เด็กก็จะช่วยลดการเกิดปัญหาของฟันแท้ในอนาคต หรือในเด็กมีฟันเรียงตัวไม่สวย ทำให้ไม่กล้าพูด หรือยิ้ม การเริ่มจัดฟันตั้งแต่เด็กก็จะช่วยให้เด็กมีบุลิกภาพที่ดีขึ้น กล้าพูด กล้ายิ้ม และกล้าแสดงออกมากขึ้น  ตย.

อุปกรณ์จัดฟันจะหลุดออกในระหว่างนอนหลับได้หรือไม่

เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากที่อุปกรณ์จัดฟันของคุณจะหลุดออก ไม่ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ก็ตาม (ไม่ว่าจะนอน พูดคุย หรือหัวเราะ) เครื่องมือได้รับการออกแบบให้พอดีแน่นกับฟัน ดังนั้นจึงไม่น่าจะเกิดข้อกังวลดังกล่าว

การใส่อุปกรณ์จัดฟันจะเป็นอุปสรรคต่อการพูดคุยหรือไม่

การใส่เครื่องมือจัดฟันใสอินวิสไลน์ในช่วงแรกอาจส่งผลต่อการพูดคุยเพียงชั่วคราว โดยส่วนใหญ่แล้วร่างกายของเราจะใช้เวลาในการปรับตัวเพียง 1-2 วัน เมื่อลิ้นของคุณชินกับการมีเครื่องมือจัดฟันอยู่ในปากแล้วก็จะไม่มีปัญหาในเรื่องการพูด ออกเสียงอีกต่อไป 

หากมีความจำเป็นต้องเดินทาง หรือย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ควรทำอย่างไร

การรักษาด้วยอินวิสไลน์ มีในประเทศต่างๆ มากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และคุณสามารถย้ายการรักษาของคุณไปยังแพทย์ท่านอื่นเพื่อรักษาคุณต่อไปได้ โดยควรแจ้งให้คุณหมอทราบล่วงหน้าเพื่อเตรียมวางแผน

หากฉันตั้งครรภ์ จะสามารถใส่เครื่องมือจัดฟันได้หรือไม่

เครื่องมือจัดฟันใสผลิตจากพลาสติกสำหรับใช้งานด้านการแพทย์และไม่มีพิษ สามารถสวมได้ระหว่างการตั้งครรภ์ หากคุณมีข้อกังวล โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพของคุณ

การรักษาด้วยอินวิสไลน์เจ็บหรือไม่

การจัดฟันแบบใสอินวิสไลน์ ไม่ใช้วิธีการจัดฟันที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดหรือน่ากังวล แต่อาจมีบางคนที่รู้สึกไม่สบายเล็กน้อยในช่วงเริ่มต้นที่เริ่มใส่เครื่องมือ และช่วงที่เปลี่ยนเครื่องมือชุดใหม่ เนื่องจากทุกครั้งที่คุณเปลี่ยนเครื่องมือ จะเป็นการเคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งใหม่ คุณจึงอาจรู้สึกตึงๆ เหมือนมีแรงดันที่ฟัน ความไม่สบายนี้โดยปกติแล้วจะหายไปใน 2-3 วันแรกเท่านั้น หากคุณใส่เครื่องมือดี และปฎิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอ

หากรู้สึกเจ็บและไม่สบายขณะที่ใส่เครื่องมือจัดฟันใสอินวิสไลน์ควรทำอย่างไร

หากคุณสังเกตว่ามีอาการเจ็บแปลบหรือรู้สึกไม่สบายอย่างมีนัยสำคัญ ควรรีบแจ้งคุณหมอทันที โดยส่วนใหญ่แล้วอาการเจ็บ ปวดฟันในระหว่างใส่เครื่องมือ มักเกิดจากการที่คุณถอดเครื่องมือจัดฟันนาน หรือบ่อยจนเกินไป ทำให้ในช่วงที่ไม่มีเครื่องมือในปาก ฟันอาจมีการเคลื่อนที่ออกจากตำแหน่งที่ถูกต้อง ทำให้เมื่อกลับมาใส่เครื่องมือจัดฟันใสจึงมีอาการปวดฟันมากกว่าปกติ

จัดฟันแบบใสต้องใส่รีเทนเนอร์ไหม

การจัดฟันทุกวิธีต้องใส่รีเทนเนอร์เหมือนกัน เนื่องจากมีการเคลื่อนฟันไปตามทิศทางที่ต้องการ ดังนั้นเมื่อจัดฟันแล้วจึงต้อใส่รีเทนเนอร์เพื่อคงสภาพฟัน ไม่เช่นนั้นฟันอาจมีการเคลื่อนที่กลับไปยังตำแหน่งเดิม

Brava by Brius

pasted image 0 2

เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของระบบการจัดฟัน ที่รวบรวมข้อดีของการจัดฟันทั้งแบบติดแน่นและแบบใสเข้าไว้ด้วยกัน และ Brava by Brius ไม่ใช่การจัดฟันแบบติดแน่นด้านในที่ใช้กันอยู่ทั่วไป เนื่องจากวิธีการรักษาและการเคลื่อนฟันสำหรับเครื่องมือของ Briusจะถูกวางแผนการรักษาโดยทันตแพทย์ร่วมการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ช่วยวิเคราะห์และประมวลผลด้วยระบบ AI ที่ทันสมัย จากข้อมูลต่างๆทั้งภาพถ่ายฟันและใบหน้า ภาพถ่ายเอกซเรย์ ลักษณะการสบฟันจากการสแกนฟันด้วย Intraoral Scanner รวมถึงโครงสร้างของขากรรไกร และกระดูกที่รองรับฟันจากการทำ Cone beam CT-Scan ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะทำให้ทันตแพทย์สามารถวางแผนการรักษาตั้งแต่ต้นจนจบไว้ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ ทำให้การเคลื่อนฟันเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ นุ่มนวล เจ็บน้อยกว่าและเสร็จรวดเร็วกว่าการจัดฟันแบบอื่นๆ โดยเฉลี่ยถึง 40-60%

เครื่องมือจัดฟัน Brava by Brius จะแตกต่างจากเครื่องมือจัดฟันด้านในแบบทั่วๆไป โดยเครื่องมือจะถูกออกแบบเฉพาะบุคคล จากการวางแผนของทันตแพทย์ที่วิเคราะห์จากลักษณะปัญหาการสบฟันและการเรียงตัวของฟันแต่ละซี่ของแต่ละบุคคล เพราะแต่ละคนจะมีรูปร่างฟันไม่เหมือนกัน โดยอุปกรณ์จะถูกติดอยู่ที่ด้านหลังของซี่ฟันจึงไม่มีใครสังเกตเห็นได้ว่ากำลังจัดฟันอยู่

Brava by Bruis ทำให้คุณมีรอยยิ้มที่สวยงามดั่งที่คุณเคยต้องการมาตลอด และเหนือสิ่งอื่นใดจะไม่มีใครรู้ว่าคุณกำลังจัดฟันอยู่ Brava by Brius เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดสำหรับเครื่องมือจัดฟัน ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก 100% เครื่องมือแต่ละชิ้นจะถูกออกแบบด้วยเทคโนโดยเฉพาะและทำขึ้นมาเฉพาะสำหรับคนไข้แต่ละราย เครื่องมือจะใช้แรงเล็กน้อยในการเคลื่อนฟันแต่ละซี่ โดยการเคลื่อนฟันแต่ละซี่จะเป็นอิสระต่อกัน ผลลัพธ์จากการรักษาด้วย Brava by Brius สามารถเห็นผลในระยะไม่ถึงปี ซึ่งสามารถประหยัดเวลาในการจัดฟันของคุณได้

ในการจัดฟัน Brava by Brius จะใช้เครื่องมือจัดฟันเพียงชุดเดียวตลอดกระบวนการรักษา ลักษณะเครื่องมือจัดฟันจะเป็นบาร์โลหะรูปทรงโค้งและมีอาร์มที่ยื่นออกมาจากแกนของบาร์ โดยอาร์มจะทำหน้าที่ในการเคลื่อนฟัน ซึ่งตัวเครื่องมือจะถูกติดอยู่บริเวณด้านในของฟัน และการเคลื่อนที่ของฟันนั้นแต่ละซี่จะเป็นอิสระต่อกัน เนื่องจากเครื่องมือจะอยู่ในช่องปากตลอดเวลา จึงไม่จำเป็นต้องนับชั่วโมงในการใส่เครื่องมือ ในด้านของการดูแลสุขภาพในช่องปาก จะทำความสะอาดและดูแลง่ายกว่าจัดฟันแบบติดแน่นทั่วไป ในส่วนของการนัดหมาย ทันตแพทย์จะนัดคนไข้ตามความจำเป็นเพื่อติดตามการรักษา และดูแลอุปกรณ์ในช่องปากเพื่อให้มั่นใจว่าการรักษาจะเป็นไปตามแผนไว้