สิ่งที่ควรรู้ก่อนจัดฟันนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพราะสำหรับใครที่เพิ่งจะเริ่มทำทันตกรรมจัดฟันเป็นครั้งแรก จะได้มีการเตรียมตัวเพื่อวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม ซึ่งการจัดฟันเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาฟันที่มีความปลอดภัย และสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างหลากหลาย หากใครที่กำลังจะตัดสินใจจัดฟัน บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลที่ควรรู้ก่อนจัดฟันมาไว้ให้แล้ว
การจัดฟัน คืออะไร
การจัดฟัน (Orthodontics) คือ กระบวนการรักษาและแก้ไขปัญหาฟันทางทันตกรรม ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันสบกันไม่ปกติ ฟันยื่น และความผิดปกติของขากรรไกรร่วมด้วย โดยจะสามารถแยกออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ การจัดฟันแบบเครื่องมือติดแน่นบนฟัน และการจัดฟันแบบถอดเครื่องมือออกได้
รูปแบบของการจัดฟัน
ในปัจจุบันมีรูปแบบการจัดฟันที่ได้รับความนิยมอยู่ 4 รูปแบบหลัก ๆ ซึ่งจะมีระยะเวลาในการจัดฟันและความถี่ในการปรับเครื่องมือแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการจัดฟัน ได้แก่ จัดฟันแบบโลหะ จัดฟันแบบเซรามิก จัดฟันแบบดามอน และจัดฟันแบบใส
จัดฟันแบบโลหะ
จัดฟันแบบโลหะ (Metal Bracket) เป็นรูปแบบการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากเป็นการจัดฟันที่มีราคาถูกที่สุด มีสีสันสวยงาม แถมยังสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้ครอบคลุม ทำมาจากวัสดุแข็งแรง มีแรงดึงสูง สามารถรับน้ำหนักของฟันได้ดี โดยจะใช้ระยะเวลาในการจัดฟันประมาณ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาฟัน แต่จะต้องมาปรับเครื่องมือและเปลี่ยนยางจัดฟันเป็นประจำทุกเดือน
จัดฟันแบบเซรามิก
จัดฟันแบบเซรามิก (Ceramic Braces) เป็นรูปแบบการจัดฟันที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการให้เห็นเครื่องมือจัดฟันอย่างชัดเจน เครื่องมือจัดฟันจะใช้วัสดุที่ทำจากเซรามิกสีใสและสีเหมือนฟัน ดูเป็นธรรมชาติ ไม่โดดเด่นจนเกินไป โดยจะใช้ระยะเวลาในการจัดฟันประมาณ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาฟัน และจะต้องระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากเป็นวัสดุที่แตกหักง่าย
จัดฟันแบบดามอน
จัดฟันแบบดามอน (Damon Braces) เป็นรูปแบบการจัดฟันที่เปลี่ยนจากการใช้ยางรัดฟันมาเป็น Damon System สามารถยึดติดเองได้ และมีกลไกการบานพับขนาดเล็กที่ยึดกับลวดเพื่อดึงให้ฟันเคลื่อนตัว ใช้เวลาในการจัดฟันน้อยลง ฟันเคลื่อนตัวได้เร็วขึ้น โดยจะใช้ระยะเวลาในการจัดฟันประมาณ 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาฟัน และไม่จำเป็นต้องปรับเครื่องมือบ่อย
จัดฟันแบบใส
ในปัจจุบันมีความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเกิดขึ้น ทำให้การจัดฟันมีการพัฒนามาเป็นแบบถอดเครื่องมือได้ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ การจัดฟันแบบใส (Invisalign) เป็นรูปแบบการจัดฟันไม่ต้องติดเครื่องมือบนฟัน สามารถถอดออกเพื่อรับประทานอาหารหรือแปรงฟันได้ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการให้เห็นเครื่องมือจัดฟัน โดยจะใช้ระยะเวลาในการจัดฟันประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาฟัน ส่วนในกรณีที่มีปัญหาฟันไม่เยอะหรือไม่ซับซ้อนมาก อาจจะใช้เวลาจัดฟันเพียง 6 เดือน
อ่านบทความเพิ่มเติม: การดัดฟันมีกี่แบบ แต่ละแบบมีจุดเด่นอะไร เหมาะกับใครบ้าง?
ข้อดีของการจัดฟัน
เชื่อว่าหลายท่านคงทราบดีอยู่แล้วว่าการจัดฟันเป็นการรักษาทางทันตกรรม ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้หลายอย่าง แต่การจัดฟันยังมีข้อดีอีกมากมาย ได้แก่
- สามารถแก้ปัญหาฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันสบกันไม่ปกติ ฟันยื่น และความผิดปกติเกี่ยวกับขากรรไกร เป็นต้น
- สามารถลดปัญหากลิ่นปากได้ เพราะการจัดฟันจะทำให้ฟันเรียงกันเป็นระเบียบ ซึ่งจะทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง
- สามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาฟันผุและเหงือกอักเสบได้
- สามารถฝึกวินัยให้กับตัวเองได้ เนื่องจากการจัดฟันทุกรูปแบบจะต้องใช้เวลา และจะต้องมีการดูแลรักษาฟันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดหรือการรับประทานอาหาร
- เพิ่มประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหาร ซึ่งจะส่งผลไปยังการทำงานของระบบย่อยอาหาร ให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น
- เพิ่มความมั่นใจในการยิ้มและหัวเราะได้ ส่งผลต่อบุคลิกภาพโดยรวม
ข้อเสียของการจัดฟัน
เนื่องจากการจัดฟันอาจใช้เวลามากถึง 2-3 ปี คนที่กำลังตัดสินใจจะจัดฟัน จึงต้องศึกษาข้อเสียของการจัดฟันเพื่อเตรียมรับมือไว้ด้วยเช่นกัน
- การจัดฟันทุกรูปแบบจะมีค่าใช้จ่ายในการจัดฟันค่อนข้างสูง และนอกจากค่าใช้จ่ายในการจัดฟันแล้ว อาจจะมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ เช่น การปรับเครื่องมือ เปลี่ยนยางจัดฟัน หรือในกรณีที่เครื่องมือเสียหาย เป็นต้น
- ในระหว่างจัดฟันอาจจะเกิดความระคายเคือง รู้สึกไม่สบายในช่องปาก แต่หากเกิดจากเครื่องมือจัดฟัน ก็จะสามารถใช้ขี้ผึ้งในการบรรเทาอาการได้
- รู้สึกปวดฟันหรือเจ็บบริเวณเหงือก เนื่องจากแรงดึงหรือแรงกดบนฟัน
- การทำความสะอาดภายในช่องปากยากขึ้น จำเป็นต้องเลือกใช้แปรงฟันสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ ร่วมกับน้ำยาบ้วนปาก และไหมขัดฟันเพื่อการทำความสะอาดที่ทั่วถึงมากที่สุด
- อาจเกิดปัญหาฟันผุ โรคเหงือก หรือเหงือกร่นตามมา หากทำความสะอาดไม่ดีพอ
- ต้องใส่รีเทนเนอร์ต่อเนื่องหลังจากจัดฟันเสร็จ เพื่อป้องกันปัญหาฟันล้มหรือฟันเคลื่อน
บทสรุป
การรักษาและแก้ไขปัญหาฟันด้วยการจัดฟัน เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการมีฟันที่เรียงตัวเป็นระเบียบสวยงาม ไม่ว่าจะยิ้มหรือหัวเราะก็สามารถทำได้อย่างมั่นใจ แถมยังมีความสำคัญกับการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก เพราะปัญหาฟันบางอย่างส่งผลต่อการบดเคี้ยวและการออกเสียง ดังนั้น การจัดฟันจึงเป็นทางเลือกสำหรับการแก้ไขปัญหาฟันต่าง ๆ อย่างตรงจุดและปลอดภัย
และหากใครกำลังมองหาคลินิกทันตกรรมสำหรับจัดฟันอยู่ Dental Design Center ศูนย์ทันตกรรมและคลินิกจัดฟันครบวงจรในพัทยา ยินดีที่จะให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ เพราะที่ Dental Design Center เราเป็นคลินิกทำฟัน พัทยาให้บริการทันตกรรมเฉพาะทางทุกสาขา ตั้งแต่ทันตกรรมจัดฟัน, ทันตกรรมตกแต่งเพื่อความสวยงาม, ทันตกรรมรากเทียม เป็นต้น ดูแลโดยทีมทันตแพทย์ที่ผ่านการศึกษาจากสถาบันที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของคลินิกหรือที่เบอร์ 094-960-4966