รากฟันเทียมเป็นกระบวนการทางทันตกรรมที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบันสำหรับการรักษาและแก้ปัญหาเกี่ยวกับการสูญเสียฟัน ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่ารากฟันเทียมเป็นการรักษา เพื่อทดแทนรากฟันแท้ธรรมชาติที่สูญเสียไป โดยให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติใกล้เคียงกับรากฟันแท้ธรรมชาติอย่างมาก อีกทั้งยังไม่ส่งผลเสียต่อตัวคนไข้อีกด้วย ดังนั้นแล้ว ก่อนตัดสินใจทำรากฟันเทียม ต้องเข้าใจถึงข้อดีและข้อเสียของการทำรากฟันเทียมเสียก่อน
รากฟันเทียมต่างจากฟันปลอมอย่างไร
ก่อนที่เราจะไปทำความเข้าใจถึงข้อดีและข้อเสียของรากฟันปลอม เรามาทำความเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างรากฟันเทียมและฟันปลอมก่อน เพราะเขื่อว่าหลายท่านอาจจะยังเข้าใจผิดว่าทั้งสองอย่างนี้เป็นสิ่งเดียวกัน แม้ว่ารากฟันเทียมและฟันปลอมจะต้องทำงานร่วมกัน แต่ความจริงแล้วทั้งสองอย่างนี้ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน เพราะการทำรากฟันเทียมจะยึดติดกับกระดูกส่วนขากรรไกรอย่างมั่นคง ทำงานเสมือนกับเป็นรากฟันแท้ธรรมชาติ เพียงแต่มาทดแทนการรากฟันแท้ธรรมชาติที่สูญเสียไปแทน ซึ่งกลับกัน ฟันปลอมไม่ได้มีหน้าที่ในการทดแทนรากฟัน อีกทั้งยังสามารถถอดเข้าออกเพื่อทำความสะอาดหรือเปลี่ยนได้นั่นเอง
(อ่านเพิ่มเติม: ฟันปลอมกับรากฟันเทียม ต่างกันอย่างไร?)
ข้อดีของการทำรากฟันเทียม
ตามที่กล่าวมาข้างต้น รากฟันเทียมเป็นการรักษารากฟันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบัน หากคนไข้หมั่นดูแลทำความสะอาดและปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์ คนไข้ไม่จำเป็นต้องกลัวอันตรายที่อาจเกิดภายหลังแม้แต่น้อย แต่กระนั้น ข้อดีของการทำรากฟันเทียมยังมีมากกว่านี้ ดังต่อไปนี้
1. ใกล้เคียงฟันแท้ที่สุด
การติดตั้งรากฟันเทียมคือการฝังรากฟันเทียมให้ยึดติดกับกระดูกส่วนขากรรไกร ทำให้คนไข้ที่ทำรากฟันเทียมรู้สึกไม่แตกต่างจากรากฟันแท้ธรรมชาติเลย อีกทั้งรากฟันเทียมยังถูกออกแบบมากให้เหมาะสมและใกล้เคียงกับฟันของคนไข้มากที่สุด เช่น ขนาดและสี ดังนั้นแล้ว คนไข้ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความแตกต่างที่มากเกินไปของฟันหลังจากทำรากฟันเทียมเสร็จแล้ว
2. วัสดุที่แข็งแรง
วัสดุที่นำมาสร้างเป็นรากฟันเทียมคือไทเทเนียม ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความเข้ากันได้กับร่างกายของมนุษย์มากที่สุด อีกทั้งวัสดุที่นำมาสร้างรากฟันเทียมยังมีความแข็งแรง คงทน หากคนไข้ปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด รับประกันเลยว่ารากฟันเทียมจะมีอายุการใช้งาน 10-20 ปี หรืออาจจะมากกว่านั้น
3. สุขภาพช่องปากดีขึ้น
การดูแลรักษาความสะอาดหลังทำรากฟันเทียมนั้นง่ายมาก แทบจะไม่แตกต่างจากการดูแลรากฟันแท้ธรรมชาติเลยแม้แต่น้อย โดยการหมั่นดูแล ระมัดระวังการใช้ฟัน ทำความสะอาดให้สม่ำเสมอและถูกวิธี เพียงแค่นี้ ปัญหาช่องปากก็จะน้อยลงและสุขภาพช่องปากก็ดีขึ้นตามไปด้วย
4. เพิ่มความมั่นใจ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนที่มีสุขภาพช่องปากที่ดี ไม่ว่าจะเรื่องกลิ่นปาก สีขาวของฟัน หรือแม้แต่รากฟันที่ดี จะเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตได้อย่างมาก เพราะไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องฟันที่เสียหายหรือไม่สวยงามอีกต่อไป
5. ไม่มีความเสี่ยงปัญหาเหงือกร่น
การทำรากฟันเทียมไม่เพียงแต่เป็นการรักษาที่ไม่มีปัญหาเหงือกร่น เพราะไม่จำเป็นต้องใส่ตะขอเหล็กที่เสียดสีกัน แต่ยังรวมไปถึงลดโอกาสการเกิดฟันล้มหรือการเคลื่อนตัวของฟันซี่ข้างเคียง
6.ไม่เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต
การทำรากฟันเทียมเป็นการยึดติดกับกระดูกส่วนขากรรไกรอย่างถาวร ทำให้คนไข้ไม่จำเป็นต้องถอดเข้าถอดออกเพื่อทำความสะอาดเหมือนกับฟันปลอม ทำให้คนไข้ไม่ต้องกลัวว่าฟันปลอมจะหาย
ข้อเสียของการทำรากฟันเทียม
แม้ว่าการทำรากฟันเทียมจะมีข้อดีมากมาย แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อเสียจำนวนไม่น้อยเช่นเดียวกัน ดังนั้นก่อนการตัดสินใจทำควรศึกษาข้อเสียและข้อจำกัดต่าง ๆ ด้วย เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
1. ค่าใช้จ่ายสูง
การทำรากฟันเทียมมีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากกว่าการทำฟันปลอม อีกทั้งยังมีวัสดุที่ใช้ทำรากฟันเทียมซึ่งมีราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้การทำรากฟันเทียมราคาแพงกว่าการทำฟันปลอมหลายเท่า
2. ข้อจำกัดเยอะ
ข้อจำกัดของการทำรากฟันเทียมไม่เพียงแค่ขั้นตอนหลังทำการผ่าตัด แต่ยังรวมไปถึงก่อนทำการผ่าตัด ไม่ใช่คนไข้ทุกคนที่สามารถทำได้ เพราะบางคนกระดูกไม่แข็งแรงหรือไม่เพียงพอต่อการทำรากฟัน อีกทั้งผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีก็ไม่สามารถทำรากฟันเทียมได้ เพราะกระดูกส่วนขากรรไกรยังไม่เติบโตเต็มที่
3. ระยะเวลาการรักษานาน
การรักษารากฟันด้วยวิธีการทำรากฟันเทียมใช้เวลานานอย่างมากขึ้นอยู่กับตัวคนไข้ ยิ่งเป็นกลุ่มคนที่มีปัญหาที่ไม่สามารถทำรากฟันเทียมได้ทันที อย่างปัญหารากฟันเทียมไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องปลูกถ่ายกระดูกเพิ่ม แต่การปลูกถ่ายกระดูกก็ทำให้เสียเวลาเพิ่มมากขึ้น ในบางกรณี ระยะเวลาทั้งหมดที่ใช้ในการรักษารากฟันเทียมนานถึง 1 ปีเลยทีเดียว
4. ไม่เหมาะกับผู้มีโรคประจำตัว
ผู้ที่มีโรคประจำและต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง เช่น โรคเบาหวาน โรคไขข้ออักเสบรุนแรง เป็นต้น จึงทำให้ไม่เหมาะในการทำรากฟันเทียม แต่กระนั้นก็ขึ้นอยู่กับทันตแพทย์หลังจากประเมินและวินิจฉัยถึงความเสี่ยงและความเหมาะสมต่าง ๆ ดังนั้นก่อนทำรากฟันเทียม ควรปรึกษาทันตแพทย์อย่างใกล้ชิดและบอกรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบถ้วน เพื่อหาแนวทางการรักษาต่อไป
5. เสี่ยงปัญหาตามมา
การทำรากฟันเทียมเป็นการรักษาที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัด ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หนึ่งในความเสี่ยงที่พบบ่อยคือการติดเชื้อที่บริเวณรากฟันเทียม ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการบวม แดง หรือปวด และอาจนำไปสู่ปัญหาเพิ่มเติม ดังนั้น การปรึกษาทันตแพทย์และการปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการผ่าตัดอย่างเคร่งครัดจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
บทสรุป
การทำรากฟันเทียมมีข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาอย่างรอบด้าน เพื่อให้เข้าใจและเตรียมตัวรับมือกับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจึงเป็นสิ่งที่ควรทำและสำคัญอย่างมาก ผู้ที่สนใจควรศึกษาและทำความเข้าใจข้อมูลให้ครบถ้วน รวมถึงการปรึกษาทันตแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมก่อนตัดสินใจ
หากคุณกำลังมองหาคลินิกทำฟัน พัทยาที่มีบริการรากฟันเทียม Dental Design Center คือทางเลือกที่ดี เราเป็นคลินิกทันตกรรมครบวงจรที่มีทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา พร้อมด้วยอุปกรณ์ทันสมัยและเป็นอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 094-960-4966 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคลินิก