รำมะนาด หรือ โรคปริทันต์ เป็นปัญหาสุขภาพในช่องปากที่สร้างความกังวลใจให้กับใครหลายคนไม่น้อยเลยทีเดียว โดยจะสังเกตได้ง่าย ๆ จากการบวมแดงของเหงือก หรือมีเลือดออกในขณะแปรงฟัน ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นปัญหาที่มักจะถูกมองข้าม แต่แท้จริงแล้ว เป็นสัญญาณจากร่างกายที่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด! บทความนี้จะพามาทำความรู้จักโรคปริทันต์ หรือรำมะนาด พร้อมสัญญาณเตือนที่คุณควรจะรู้
ทำความรู้จัก รำมะนาด คืออะไร
รำมะนาด หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ “โรคปริทันต์อักเสบ” (Periodontitis) ซึ่งเป็นโรคที่มีความเกี่ยวข้องกับการติดเชื้ออย่างรุนแรงในช่องปาก แม้จะฟังดูเป็นเรื่องที่น่ากลัว แต่แท้จริงแล้ว โรคดังกล่าวสามารถป้องกันได้ด้วยการรักษาสุขอนามัยภายในช่องปากให้มีความสะอาดอยู่เสมอ ขูดหินปูนทุก 6 เดือน และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อรุนแรงของเหงือก, กระดูกรองรับรากฟัน และเอ็นยึดรากฟัน
สาเหตุของรำมะนาด หรือโรคปริทันต์
สาเหตุของการเกิดโรคปริทันต์อักเสบ มีอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
- การสะสมของคราบจุลินทรีย์และแบคทีเรียในช่องปาก ซึ่งอยู่ที่บริเวณรอยต่อระหว่างฟันและเหงือก
- การสะสมของหินปูนและคราบจุลินทรีย์เป็นเวลานานจนกลายเป็นหินปูน ยากต่อการทำความสะอาด
- การรักษาสุขอนามัยภายในช่องปาก เนื่องจากการแปรงฟัน หรือทำความสะอาดอย่างไม่เหมาะสมจะส่งผลต่อปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน
- การสูบบุหรี่ หรือการใช้ยาบางชนิดเป็นประจำ
- ภาวะเบาหวาน หรือการตั้งครรภ์
สัญญาณเตือนของรำมะนาด หรือโรคปริทันต์
- สังเกตว่าเหงือกบวมแดงอย่างเห็นได้ชัด
- ขณะแปรงฟัน บ้วนปาก หรือใช้ไหมขัดฟัน มักมีเลือดออก
- มีปัญหาเหงือกร่น ส่งผลให้ฟันดูยาวขึ้น
- มีปัญหากลิ่นปากแบบเรื้อรัง
- มีปัญหาฟันโยก รู้สึกว่าฟันหลวมผิดปกติ
- มีหนองไหลออกจากเหงือกหรือบริเวณฟัน
การรักษาและป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ
หากใครที่กังวลเกี่ยวกับปัญหาในช่องปาก รวมถึงรำมะนาดหรือโรคปริทันต์ ในวันนี้เราจะมาบอกต่อวิธีการรักษาและป้องกันที่เห็นผลได้จริง สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
ดูแลสุขอนามัยในช่องปาก
การดูแลสุขอนามัยในช่องปากที่ดีที่สุด คือ การแปรงฟันอย่างถูกวิธี อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และควรจะเลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนนุ่ม ลดความเสี่ยงที่จะเกิดการระคายเคือง และใช้ไหมขัดฟันร่วมกับการแปรงฟัน เพื่อการทำความสะอาดซอกฟันอย่างทั่วถึง
ตรวจสุขภาพช่องปากทุก 6 เดือน
การพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน รวมถึงการขูดหินปูน และบริการทางทันตกรรมอื่น ๆ เป็นสิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญและห้ามมองข้ามโดยเด็ดขาด เพราะหากพบปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน ก็จะสามารถรักษาได้ในทันที ไม่ปล่อยไว้จนกลายเป็นปัญหาที่ซับซ้อนหรือรุนแรงมากขึ้นในอนาคต
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพฤติกรรมหรือการกระทำบางอย่างในชีวิตประจำวัน ส่งผลต่อปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันไม่น้อยเลย ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ การดื่มเครื่่องดื่มแอลกอฮอล์ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และสารเสพติดอื่น ๆ
ระยะเวลาในการรักษาโรคปริทันต์
สำหรับผู้ที่กำลังประสบปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน อย่างโรคปริทันต์ หรือรำมะนาด โดยปกติแล้วจะใช้เวลาในการรักษาไม่น้อยกว่า 6 เดือน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของปัญหาและสุขภาพของแต่ละคนร่วมด้วย ซึ่งในการรักษาโรคดังกล่าวจะต้องมีการขูดหินปูนตามร่องฟันและบริเวณใต้เหงือก โดยใช้เครื่องมือทางการแพทย์ และจะต้องติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ
บทสรุป
โรคปริทันต์อักเสบ เป็นปัญหาสุขภาพช่องปากที่สร้างทั้งความกังวลใจและความเจ็บปวดให้กับตัวเอง เพราะฉะนั้น จึงต้องมีการดูแลรักษาสุขอนามัยภายในช่องปากอย่างสม่ำเสมอ แปรงฟันให้ถูกวิธีและเหมาะสม ไม่เช่นนั้น อาจจะต้องเผชิญกับความเจ็บปวดของโรคปริทันต์ รวมถึงเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษาอีกด้วย
อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยปกป้องคือการพบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อขูดหินปูนและตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน หากใครที่ต้องการตรวจสุขภาพภายในช่องปากกับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ติดต่อได้ที่ Dental Design Center คลินิกทำฟัน พัทยา ที่มีบริการทางทันตกรรมแบบครบวงจร โดยใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่มีความทันสมัยและปลอดภัย เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด