วิธีแก้ปัญหามีกลิ่นปากแรงลมหายใจเหม็น พูดคุยมั่นใจกว่าเดิม
การมีกลิ่นปากแรงลมหายใจเหม็นถือเป็นปัญหาที่ทุกคนไม่อยากเจอ เพราะทำให้เสียความมั่นใจ แถมยังกลัวการเข้าสังคมอีก ว่าแต่ต้องทำยังไงให้ปากกลับมาหอม ไปดูกัน
- วิธีแก้ปัญหามีกลิ่นปากแรงลมหายใจเหม็น นั้นมีด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น แปรงฟันให้ถูกต้อง, เปลี่ยนแปรงทุก 3 เดือน, ดื่มน้ำให้มากขึ้น, เลี่ยงอาหารกลิ่นแรง, เลิกสูบบุหรี่, อมลูกอม เคี้ยวหมากฝรั่ง ใช้สเปรย์ดับกลิ่นปาก, ทานผักผลไม้ และหมั่นตรวจสุขภาพช่องปาก
- ปัญหากลิ่นปากเกิดจากหลาย ๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ฟันผุ, น้ำลายน้อย, แผลในช่องปาก และการใส่เครื่องมือต่าง ๆ , การสูบบุหรี่ และการกินอาหารที่มีกลิ่นแรง รวมถึงโรคประจำตัวอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่าง
แทบไม่กล้าออกไปเจอใครเลยตั้งแต่ที่รู้สึกได้ว่าตัวเองเริ่มมีกลิ่นปากแรงลมหายใจเหม็น พยายามทำทุกอย่างที่รู้แล้ว แต่ก็เหมือนจะไม่หายขาด ซึ่งน่าจะเป็นปัญหาใหญ่ ๆ ของใครหลาย ๆ คน วันนี้ Dental Design Pattaya เลยจะมาแชร์วิธีแก้ปัญหามีกลิ่นปากได้แบบอยู่หมัด เพื่อลมหายใจที่กลับมาหอมสดชื่นได้อีกครั้ง
8 วิธีแก้ปัญหามีกลิ่นปากแรงลมหายใจเหม็น
1. แปรงฟันให้ถูกต้อง
เชื่อเลยว่ายังมีหลายคนที่ละเลยเรื่องการแปรงฟันอยู่ไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะแปรงฟันไม่ครบ 2 ครั้งต่อวัน รีบแปรงมากเกินไป หรือแปรงนานแต่ไม่ถูกวิธี ก็ล้วนมีส่วนทำให้เพิ่มโอกาสการเกิดปัญหามีกลิ่นปากแรงลมหายใจเหม็นได้ เพราะจริง ๆ แล้วปัญหานี้มีต้นตอมาจากสุขภาพภายในช่องปากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ดังนั้นถ้าใครไม่อยากเจอปัญหากวนใจนี้ต้องแปรงฟันแบบนี้
- แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ทุกวัน ในตอนเช้าและเย็น หรือหลังมื้ออาหารด้วยก็ได้
- เลือกใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์เข้มข้นระหว่าง 1,000-1,500 ppm
- อย่าลืมแปรงลิ้นให้สะอาดทุกครั้ง
- หมั่นใช้ไหมขัดฟันร่วมกับการแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ
ทริคการแปรงฟันที่ถูกต้อง
- วางขนแปรงทำมุมประมาณ 45 องศา เพื่อให้ขนแปรงอยู่บริเวณรอยต่อของเหงือกกับฟัน
- ปัดแปรงสีฟันขึ้นลงไปมาให้ทั่ว ทั้งฟันด้านนอกและฟันด้านใน
- ส่วนด้านบนของฟันกรามให้วางขนแปรงนาบลงไป และถูซ้ำไปมาให้ทั่ว
2. เปลี่ยนแปรงทุก 3 เดือน
มีใครบ้างที่แทบไม่ค่อยได้เปลี่ยนแปรงสีฟันตัวเองเลย ต้องรอจนกว่าขนแปรงเริ่มบานค่อยคิดที่จะเปลี่ยน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ต้องเปลี่ยนโดยด่วน เพราะระยะเวลาที่สามารถใช้แปรงสีฟันได้นานที่สุดคือ 3 เดือนเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นขนแปรงสีฟันของเราจะกลายมาเป็นบ้านหลังที่สองของเชื้อโรคและแบคทีเรียจำนวนมาก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้มีกลิ่นปาก ดังนั้นใครที่จำไม่ได้แล้วว่าล่าสุดเปลี่ยนแปรงไปตอนไหน ให้รีบไปซื้ออันใหม่มาเปลี่ยนโดยด่วน
3. ดื่มน้ำให้มากขึ้น
นอกจากการดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดี ขับถ่ายดี แถมยังผิวสวยแล้ว ก็ยังช่วยเรื่องกลิ่นปากได้อีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ใครหลาย ๆ คนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน แต่จริง ๆ แล้วการจิบน้ำบ่อย ๆ ตลอดทั้งวันนั้นจะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียภายในช่องปากของเราได้ โดยเทคนิคการดื่มน้ำที่ดี มีดังนี้
- ควรดื่มน้ำเปล่าประมาณวันละ 8 แก้ว
- ทางที่ดีควรดื่มน้ำในอุณหภูมิห้องจะดีที่สุด
- ต้องทยอยจิบน้ำทีละน้อย ๆ ไม่ควรดื่มรวดเดียวเยอะ ๆ
4. เลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรง
อาหารไทยขึ้นชื่อว่าอร่อยถูกปากแบบสุด ๆ โดยเฉพาะอาหารที่มีกลิ่นแรง อย่าง สะตอผัดกุ้ง ส้มตำปูปลาร้า และน้ำพริกกะปิ ซึ่งเป็นต้นตอสำคัญที่ทำให้มีกลิ่นปากได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้กินของอร่อย ๆ อีกเลย เพียงแค่หลีกเลี่ยงอาหารแบบนี้เวลาที่ต้องไปเจอคนเยอะ ๆ หรือถ้าอยากกินจริง ๆ ก็แค่แปรงฟันให้เรียบร้อยหลังกินเสร็จ ก็จะช่วยลดกลิ่นอาหารแรง ๆ นี้ได้แล้ว
5. เลิกสูบบุหรี่
อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีกลิ่นปากแรงลมหายใจเหม็นก็คือการสูบบุหรี่นี่เอง ด้วยสารต่าง ๆ จำนวนมากที่อยู่ในบุหรี่ ซึ่งเป็นตัวการหลักที่ก่อให้เกิดปัญหากลิ่นปาก รวมถึงการสูบบุหรี่ยังทำให้ปากแห้ง น้ำลายหาย ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ทำให้เชื้อแบคทีเรียในช่องปากเติบโตได้มากกว่าปกติ ดังนั้นถ้าหากใครไม่อยากมีกลิ่นปากจริง ๆ ก็ควรลดละเลิกบุหรี่ นอกจากจะช่วยให้สุขภาพช่องปากดีขึ้นแล้ว ยังช่วยให้สุขภาพกายดีขึ้นอีกด้วย
6. อมลูกอม เคี้ยวหมากฝรั่ง ใช้สเปรย์ดับกลิ่นปาก
ไอเทมช่วยชีวิตเวลาที่รู้สึกไม่มั่นใจในเรื่องกลิ่นปากได้เป็นอย่างดี หลายคนที่ต้องไปเจอคนเยอะ ๆ บ่อย ๆ หรือต้องทำงานที่ใช้การพูดคุยเป็นหลัก ก็ไม่วายจะต้องพกไอเทมเหล่านี้เอาไว้ติดตัวอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นลูกอม หมากฝรั่ง หรือสเปรย์ดับกลิ่นปาก เพราะสามารถช่วยลดกลิ่นปากได้แบบทันท่วงที แต่ถือเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ เพราะฉะนั้นทุกคนก็ยังต้องทำวิธีอื่น ๆ ร่วมด้วยจึงจะเห็นผลดีที่สุด
7. ทานอาหารพวกผักผลไม้ที่มีกากใยเยอะ ๆ
เป็นอีกวิธีที่หลายคนคิดไม่ถึงอย่างแน่นอนว่าสามารถช่วยลดกลิ่นปากได้จริง ๆ นั่นคือการกินผักและผลไม้ที่มีกากใยสูง ๆ เพราะสามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดการผลิตน้ำลายมากขึ้น จึงช่วยลดจำนวนแบคทีเรียในช่องปากได้ แถมยังทำให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานดีขึ้น ขับถ่ายดีขึ้น ซึ่งช่วยกำจัดพวกอาหารและสารพิษต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่ภายในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในทางเดินอาหารนั่นเอง
8. หมั่นตรวจสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ
ต้องไปหาหมอฟันทุก ๆ 6 เดือน คือ สิ่งที่ทุกคนได้ยินมาตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะช่องปากนั่นเป็นอวัยวะที่ซับซ้อนมากกว่าที่เราคิด และการไปหาหมอฟันอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เรารู้ว่าสุขภาพช่องปากในปัจจุบันของเราดีหรือแย่อย่างไร เพื่อดูแลและรักษาให้ถูกวิธี เพราะในบางตำแหน่งเราก็ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจริง ๆ ต้องพึ่งพาคุณหมอให้ดูให้เท่านั้น ซึ่งถ้าพบปัญหาอะไรก็จะได้รีบรักษาได้อย่างทันท่วงทีนั่นเอง
หลังจากรู้วิธีการแก้ปัญหามีกลิ่นปากกันไปแล้ว ก็ตามมาดูกันดีกว่าว่ากลิ่นปากเกิดจากอะไร เพื่อที่จะเข้าใจและดูแลช่องปากได้อย่างตรงจุด
ปัญหากลิ่นปากเกิดจากอะไร
1. ปัจจัยภายในช่องปาก
- ฟันผุ เนื่องจากเศษอาหารจะชอบเข้าไปติดอยู่ในรูฟันที่ผุ ซึ่งยากต่อการทำความสะอาด จึงทำให้เกิดกลิ่นเหม็นได้
- น้ำลายน้อย หากใครมีต่อมน้ำลายที่สามารถผลิตน้ำลายได้น้อย จะทำให้มีกลิ่นปากได้ง่ายกว่าคนที่ต่อมผลิตน้ำลายได้เยอะ
- แผลในช่องปาก ไม่ว่าจะเป็น แผลร้อนในหรือแผลที่เกิดจากการทำฟัน ก็สามารถทำให้เกิดกลิ่นปากได้เช่นกัน
- การใส่เครื่องมือต่าง ๆ อย่างคนที่ใส่ฟันปลอม รวมถึงคนที่จัดฟัน ถ้าดูแลและทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ ก็จะทำให้มีกลิ่นปากแรงลมหายใจเหม็นได้
บริการตรวจสุขภาพฟันจาก Dental Design Center Pattaya
“ สุขภาพช่องปากดี กลิ่นปากก็หาย ”
ใครกังวลหรือรู้สึกว่าตัวเองกำลังมีปัญหาเรื่องกลิ่นปาก ต้องลองมาตรวจสุขภาพช่องปากกับเรา เพราะคุณอาจจะมีฟันผุหลายซี่หรือมีหินปูนเกาะอยู่ตามซอกฟัน จนทำให้มีกลิ่นปากแรงลมหายใจเหม็น ซึ่งหากตรวจพบเร็วก็จะรักษาได้ไว ไม่ว่าจะเป็นการขูดหินปูนหรือการอุดฟัน
2. ปัจจัยภาพนอกช่องปาก
- การสูบบุหรี่ นอกจากบุหรี่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายหลายอย่างแล้ว ยังทำให้สุขภาพภายในช่องปากไม่ดีอีกด้วย เพราะทำให้เกิดหินปูนเยอะ เหงือกอับเสบง่าย และมีกลิ่นปากที่เกิดจากแบคทีเรียและสารเคมีที่อยู่ในบุหรี่
- การกินอาหาร หากใครชอบกินอาหารจำพวก กระเทียม หัวหอม สะตอ และเครื่องเทศต่าง ๆ ก็จะมีเปอร์เซ็นต์ที่ทำให้เกิดกลิ่นปากง่ายกว่าคนที่ไม่ชอบทานอาหารจำพวกนี้
3. ปัจจัยที่เกี่ยวกับโรคประจำตัว
- โรคระบบทางเดินหายใจส่วนบน ไม่ว่าจะเป็น โรคทอนซิลอักเสบ โรคไซนัสอักเสบ และโรคมะเร็งโพรงกระดูก ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในช่องปากได้
- โรคระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง ไม่ว่าจะเป็น โรคกระเพาะอาหาร โรคกรดไหลย้อน โรคปอดเรื้อรัง และโรคมะเร็งปอด ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้มีกลิ่นปากได้เช่นกัน
ทั้งหมดนี้คือวิธีแก้ปัญหามีกลิ่นปากแรงลมหายใจเหม็น ที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถพูดคุยและใช้ชีวิตได้มั่นใจกว่าเดิม และหากใครกำลังสนใจตรวจเช็กสุขภาพฟัน อุดฟัน รวมถึงขูดหินปูน ก็สามารถมาใช้บริการกับเราได้ที่ Dental Design Center Pattaya ด้วยการบริการที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของคนไข้
Dental Design Pattaya คลินิกทันตกรรม อุดฟัน ขูดหินปูน มาตรฐานระดับโลก
- มั่นใจได้ในการบริการและคุณภาพในการรักษา ด้วยทีมทันตแพทย์ที่ผ่านการศึกษาจากสถาบันทั้งในและนอกประเทศ มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มากมาย
- เพียบพร้อมด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัยและครอบคลุมทุกการรักษา
- รักษาฟันผุด้วยการอุดฟัน เพื่อดูแลและรักษาฟันแท้ให้อยู่กับคนไข้ไปนาน ๆ
- ยืดอายุให้กับฟันพร้อมลดกลิ่นปากด้วยการขูดหินปูน ลดโอกาสเสี่ยงการเกิดโรคเหงือก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
การอุดฟัน, การขูดหินปูน, กลิ่นปาก