เหล็กจัดฟันเป็นทันตกรรมที่ช่วยเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงรอยยิ้มให้สวยงามมากยิ่งขึ้น เนื่องจากผลลัพธ์ของเหล็กจัดฟันคือ ฟันที่เรียงตัวสวยงาม จนทำให้เหล็กจัดฟันได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง และกลายมาเป็นเทรนด์ (Trend) ความสวย ความงามที่แพร่หลายอย่างในปัจจุบัน โดยในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับเหล็กจัดฟันแบบต่าง ๆ พร้อมความแตกต่างของเหล็กจัดฟันแบบใสและเหล็กจัดฟันแบบโลหะ
เหล็กจัดฟันใส คืออะไร?
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเหล็กจัดฟันแบบใสกันก่อน โดยปกติแล้วมักเรียกกันว่า การจัดฟันใส แต่ในบทความนี้เราจะใช้คำว่า เหล็กจัดฟันแบบต่าง ๆ แทน เพื่อสร้างความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน โดยเหล็กจัดฟันใส หรือ Invisalign เป็นการใช้เครื่องมือจัดฟันใส (Aligners) ที่มีเอกลักษณ์คือพลาสติกสีใส เนื้อบางและโปร่งแสง
โดยเหล็กจัดฟันใสนั้นไม่จำเป็นต้องยึดด้วยลวดเหล็กหรือโลหะเหมือนกับเหล็กจัดฟันแบบโลหะ แต่ใช้วิธีการครอบฟันแทน ทำให้วัสดุสีใสนั้นเรียบเนียมเข้ากับฟันของคนไข้ ไม่มีความแตกต่างที่เห็นชัด จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเหล็กจัดฟันใส หรือการจัดฟันใสนั้นได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน
ความแตกต่างระหว่างเหล็กจัดฟันใส และจัดฟันโลหะ
คำถามที่หลายคนกำลังสงสัยว่า ‘เหล็กจัดฟันแบบใสและเหล็กจัดฟันแบบโลหะต่างกันอย่างไร?’ บทความนี้มีคำตอบอย่างแน่นอน เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกประเภทของการจัดฟัน เรามาดูกันดีกว่าเหล็กจัดฟันทั้งสองแบบนี้มีความแตกต่างกันในด้านใดบ้าง และเหมาะสมกับใครบ้าง
ระยะเวลาการรักษา
โดยปกติแล้ว เหล็กจัดฟันแบบโลหะจะใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 2 ปี เนื่องจากต้องมีการติดเครื่องมือหรือทำฟันอื่น ๆ ร่วมด้วย ในทางกลับกันเหล็กจัดฟันแบบใสจะไม่มีการถอนฟัน ทำให้ระยะเวลาในการรักษาค่อนข้างน้อยกว่า โดยอยู่ที่ราว ๆ 1 ปีเท่านั้น แต่กระนั้นหากมีการถอนฟันร่วมด้วย ในกรณีที่ฟันของคนไข้มีปัญหาค่อนข้างรุนแรง ระยะเวลาการรักษาก็จะยาวนานตามไปด้วย ซึ่งอาจจะใช้เวลาถึง 2 ปีเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาการรักษาไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับสุขภาพช่องปากของคนไข้และการดูแลรักษาของคนไข้ว่าดูแลช่องปากดีมากน้อยแค่ไหน รวมไปถึงการให้ความร่วมมือของคนไข้ในการเข้าพบทันตแพทย์ตามนัดหมายเช่นเดียวกัน
ค่าใช้จ่าย
ในส่วนของราคาหรือค่าใช้จ่ายนั้น เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าเหล็กจัดฟันแบบใสมีราคาที่สูงกว่าเหล็กจัดฟันแบบโลหะ ซึ่งสูงกว่าเท่าตัวเลยทีเดียว โดยขึ้นอยู่หลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น คุณภาพของวัสดุ หรือเทคโนโลยีการแพทย์ เป็นต้น จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณสูง
การออกเสียง
หากเปรียบเทียบเหล็กจัดฟันแบบใสและแบบโลหะ เหล็กจัดฟันแบบโลหะมีความลำบากมากกว่า เพราะมีการติดเครื่องมือเข้าไป ทำให้การขยับปากและการพูดลำบากมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ดังนั้นแล้ว ด้านการพูด การออกเสียง เหล็กจัดฟันใสถือว่าดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
การเกิดบาดแผล
หนึ่งในเหตุผลหลักที่ส่งผลต่อการเลือกเหล็กจัดฟันคือ การเกิดบาดแผล ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่า เหล็กจัดฟันแบบโลหะนั้นจำเป็นต้องติดเครื่องมืออื่น ๆ เพิ่มเติมเข้าไป ส่งผลให้เสี่ยงต่อการเกิดบาดแผลได้จากการที่กระพุ้งแก้มถูกโลหะเกี่ยว แต่กระนั้น หากเลือกเหล็กจัดฟันแบบใส ปัญหาโลหะเกี่ยวจะหมดไป เพราะเหล็กจัดฟันใสไม่ต้องติดเครื่องมือที่เสี่ยงต่อการเกิดบาดแผลในช่องปากนั่นเอง
ใครเหมาะกับเหล็กจัดฟันแบบไหน?
จริง ๆ แล้วความเหมาะสมสำหรับเหล็กจัดฟันนั้นไม่มีผิดมีถูก หรือตายตัว เพราะทุกคนส่วนจัดฟันได้ แต่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจและการประเมินของทันตแพทย์ว่าคนไข้แต่ละรายควรเลือกเหล็กจัดฟันแบบไหนถึงจะเหมาะสมกว่า เพื่อประสิทธิภาพในการจัดฟันที่สุดที่สุด
แต่หากกล่าวถึงความเหมาะสมแล้วหละก็ ส่วนใหญ่แล้ว เหล็กจัดฟันแบบใสเหมาะสำหรับกลุ่มคนที่ต้องใช้บุคลิกภาพ หน้าตา และรูปลักษณ์ในการใช้ชีวิตหรือการทำงานเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ดารานักแสดง ศิลปินนักร้อง หรืออินฟลู (Influencer) เป็นต้น เพราะเหล็กจัดฟันแบบใสนั้นไม่เห็นรูปร่างที่เด่นชัด อีกทั้งยังไม่เกิดความลำบากขณะพูดอีกด้วย
กลับกันในส่วนของเหล็กจัดฟันแบบโลหะเหมาะกับกลุ่มคนที่ไม่ยึดติดด้านความสวยงามความ ภาพลักษณ์ หรือไม่กังวลเกี่ยวกับการทำความสะอาดฟันที่จำเป็นต้องใช้เวลานานมากขึ้น หรือหากกล่าวให้เข้าใจง่าย เหล็กจัดฟันแบบโลหะเหมาะกับ Lifestyle สบาย ๆ ชิว ๆ ไม่ซีเรียสเรื่องภาพลักษณ์การใช้ชีวิตมากนักนั่นเอง
บทสรุป
อย่างที่เห็น เหล็กจัดฟันทั้งสองแบบมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งไม่สามารถกล่าวได้อย่างชัดเจนว่าเหล็กจัดฟันแบบไหนดีกว่า เพราะเหล็กจัดฟันทั้งสองแบบนั้นเหมาะสมกับคนไข้ที่ต่างกัน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับเหล็กจัดฟันทั้งสองแบบนี้ให้ดีก่อน เพื่อประกอบการตัดสินใจทำฟันนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจเลือกว่าควรทำเหล็กจัดฟันแบบไหน ทางที่ดีและเหมาะสมกว่าคือการเข้าพบทันตแพทย์ เพื่อปรึกษา ประเมินสุขภาพช่องปาก พร้อมหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลมากที่สุด สำหรับใครที่ต้องการตรวจสุขภาพภายในช่องปากกับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ติดต่อได้ที่ Dental Design Center คลินิกทำฟัน พัทยา ที่มีบริการทางทันตกรรมแบบครบวงจร ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีความทันสมัยและปลอดภัย เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด