การจัดฟันเป็นการรักษาฟันทางทันตกรรมที่มีความปลอดภัย และสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างหลากหลาย และในปัจจุบันก็มีการจัดฟันหลายรูปแบบให้เลือกได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ซึ่งในวันนี้เราจะพามาไขข้อข้องใจว่าทำไมต้องจัดฟัน และฟันแบบไหนควรจัดฟันบ้าง
การจัดฟัน คืออะไร
การจัดฟัน (Orthodontics) คือ กระบวนการดูแลรักษาฟันด้วยเครื่องมือทางทันตกรรม โดยจะสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันยื่น ฟันสบไม่ปกติ หรือปัญหาฟันที่เกี่ยวกับกระดูกขากรรไกรร่วมด้วย เพื่อให้ฟันอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องเหมาะสมและมีการบดเคี้ยวที่ดีขึ้น ซึ่งการจัดฟันจะสามรถแยกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ การจัดฟันแบบใช้เครื่องมือติดแน่นบนฟัน และการจัดฟันแบบสามารถถอดเครื่องมือออกได้ ซึ่งถือเป็นรูปแบบที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
รูปแบบของการจัดฟัน
- จัดฟันแบบโลหะ (Metal Bracket)
- จัดฟันแบบเซรามิก (Ceramic Braces)
- จัดฟันแบบดามอน (Damon Braces)
- จัดฟันแบบใส (Invisalign)
อ่านบทความเพิ่มเติม: รวมข้อมูลที่ควรรู้ก่อนจัดฟัน จัดฟันคืออะไร จัดฟันมีกี่แบบ
ระยะเวลาในการจัดฟัน
ระยะเวลาในการจัดฟันก็จะมีความแตกต่างกันไปตามการจัดฟันแต่ละประเภท และสภาพปัญหาฟันของแต่ละบุคคล ซึ่งระยะเวลาโดยทั่วไปของการจัดฟัน ก็จะอยู่ที่ประมาณ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับหลายสาเหตุร่วมกัน ซึ่งหากว่าต้องการทราบระยะเวลาคร่าว ๆ ในการจัดฟัน สามารถเข้าไปสอบถามและรับการตรวจประเมินจากทันตแพทย์ได้
ทำไมต้องจัดฟัน จัดฟันช่วยเรื่องอะไรบ้าง
1. ช่วยทำให้สุขภาพช่องปากดีขึ้น
การจัดฟันเป็นกระบวนการทางทันตกรรมที่จะช่วยทำให้สุขภาพช่องปากดีขึ้น เพราะเมื่อจัดฟันเรียบร้อยแล้ว จะทำให้ฟันเรียงตัวกันเป็นระเบียบสวยงาม ง่ายต่อการทำความสะอาด แถมยังสามารถดูแลสุขอนามัยภายในช่องปากได้อย่างทั่วถึงมากขึ้นด้วย
2. ช่วยแก้ไขปัญหาฟันได้หลากหลาย
การจัดฟัน สามารถแก้ไขปัญหาฟันฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันยื่น ฟันสบไม่ปกติ หรือปัญหาฟันที่เกี่ยวกับกระดูกขากรรไกรได้อย่างปลอดภัย เพราะเป็นการรักษาโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และเครื่องมือทางทันตกรรมที่ได้มาตรฐาน
3. ช่วยในเรื่องการทำงานของระบบย่อยอาหาร
สำหรับคนไข้ที่มีปัญหาการสบฟันที่ผิดปกติหรือฟันไม่สบกัน ส่งผลให้ความสามารถในการบดเคี้ยวไม่ดี และทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักขึ้น เมื่อมีการจัดฟันแล้วก็จะสามารถแก้ไขปัญหาฟันไม่สบกันได้ และส่งผลไปยังระบบย่อยอาหาร ทำให้ระบบย่อยอาหารสามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้น
4. ช่วยเพิ่มวินัยในการดูแลฟัน
เนื่องจากการจัดฟันโดยทั่วไปจะใช้เวลานานถึง 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาฟันของแต่ละคน ถือเป็นเวลาที่นานพอสมควร ซึ่งในระหว่างจัดฟันก็จะต้องมีการดูแลฟันเป็นพิเศษ มีความระมัดระวังในการทานอาหารหรือพฤติกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันมากขึ้น เพื่อไม่ให้เครื่องมือจัดฟันเสียหาย
5. ช่วยเพิ่มความมั่นใจและเสริมบุคลิกภาพ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ฟันที่มีการเรียงตัวเป็นระเบียบสวยงาม มีผลต่อความมั่นใจในการยิ้มหรือพูดคุย ซึ่งก็จะส่งผลให้มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่หลังจากจัดฟันแล้วมีการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้า ก็จะยิ่งทำให้มีความมั่นใจและเสริมบุคลิกภาพให้ดีขึ้นได้
ใครที่ควรจัดฟันบ้าง
- ผู้ที่มีปัญหาฟันซ้อนเก เพราะมีบริเวณขากรรไกรน้อยเกินไป
- ผู้ที่มีปัญหาฟันยื่น ทั้งฟันบนยื่นหรือฟันล่างยื่น
- ผู้ที่มีปัญหาฟันกัดคร่อม เมื่อกัดฟันแล้วฟันบนไม่สามารถขบกับฟันล่างได้พอดี
- ผู้ที่มีปัญหาฟันสบเปิด เมื่อขบฟันแล้วมีช่องว่างระหว่างฟันบนกับฟันล่างมากเกินไป
- ผู้ที่มีปัญหาฟันสบคร่อม เมื่อกัดฟันแล้ว ฟันไม่พอดีกัน เอียงไปด้านข้างด้านใดด้านหนึ่ง
- ผู้ที่มีปัญหาฟันห่าง มีช่องว่างระหว่างซี่ฟัน
บทสรุป
การจัดฟัน เป็นวิธีการรักษาฟันที่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน เมื่อจัดฟันเสร็จแล้วจะพบว่าฟันมีการเรียงตัวเป็นระเยียบและมีความสวยงามมากขึ้น ไม่ว่าจะยิ้มหรือหัวเราะก็สามารถทำได้อย่างมั่นใจ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ทำอาชีพเกี่ยวกับงานบริการที่จะต้องรักษาภาพลักษณ์หรือบุคลิกภาพให้ดีอยู่เสมอ การจัดฟันถือเป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยให้คุณยิ้มได้อย่างมั่นใจ
ที่ Dental Design Center เป็นศูนย์ทันตกรรมและคลินิกจัดฟันครบวงจรในพัทยา เรามีทีมทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการจัดฟันเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับฟันจากสาเหตุต่าง ๆ พร้อมให้คำแนะนำและการรักษาในทุกรูปแบบ โดยหากใครอาศัยอยู่โซนพัทยา จังหวัดชลบุรีและกำลังมองหาคลินิกทันตกรรมจัดฟัน พัทยา สามารถเข้ารับคำแนะนำหรือดูโปรโมชั่นของคลินิกได้ที่เว็บไซต์ Detal Design Center ได้เลย