- ฟันปลอมกับรากฟันเทียม เป็นเครื่องมือทันตกรรมที่ช่วยสร้างรอยยิ้มที่สวยงาม เพิ่มความมั่นใจในการเข้าสังคมและใช้ชีวิต รวมถึงยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวให้ดีมากขึ้นอีกด้วย
- รากฟันเทียมกับฟันปลอม มีความแตกต่างกันอยู่หลายด้าน ทั้งค่าใช้จ่าย ความสวยงาม ความแข็งแรงทนทาน ประสิทธิภาพในการบดเคี้ยว ความสบายในการสวมใส่ ขั้นตอนการผลิตและติดตั้งเครื่องมือ รวมถึงความเจ็บระหว่างทำ
ฟันปลอมกับรากฟันเทียม คือ หนึ่งในนวัตกรรมที่มาทดแทนฟันแท้ที่สูญเสียไป ไม่ว่าจะจากช่วงวัยหรืออุบัติเหตุ เพื่อช่วยให้เราสามารถเคี้ยวอาหารได้ละเอียดมากขึ้น กินอาหารได้หลากหลายและอร่อยขึ้นกว่าเดิม แถมยังช่วยเพิ่มความมั่นใจเวลาต้องเข้าสังคมได้อีกด้วย
Dental Design Pattaya เลยจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเครื่องมือทันตกรรมทั้ง 2 อย่างนี้ เพื่อดูว่ารากฟันเทียมกับฟันปลอมแตกต่างกันยังไง มีข้อดีข้อเสียตรงไหน และเหมาะกับใครบ้าง?
ฟันปลอม คืออะไร?
ฟันปลอม คือ ฟันที่ทำขึ้นมาเพื่อใช้ทดแทนซี่ฟันที่สูญเสียไป โดยจะมีราคาที่แตกต่างกันตามประเภท จำนวนซี่ และวัสดุของฟันปลอมนั้น ๆ โดยจะมีลักษณะเด่นตรงที่สามารถถอดเข้าและถอดออกได้ ซึ่งมีด้วยกัน 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ ฟันปลอมแบบทั้งปากและฟันปลอมแบบบางส่วน
- ฟันปลอมแบบทั้งปาก เป็นฟันปลอมที่ทุกคนคุ้นเคยดี โดยฐานฟันจะทำมาจากอะคริลิกที่มีลักษณะและสีคล้ายกับเหงือกจริง ซึ่งต้องใช้คู่กับกาวติดฟันปลอม
- ฟันปลอมแบบบางส่วน เป็นฟันปลอมที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยเห็น โดยฐานฟันจะทำมาจากอะคริลิกและโลหะ ซึ่งสามารถใส่ได้ทันที โดยไม่ต้องใช้คู่กับกาวติดฟันปลอม’
1. ฟันปลอมเหมาะกับใครบ้าง?
- ฟันปลอมเหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์ทั่ว ๆ ไป
เพราะการใส่ฟันปลอมจะต้องมีการถอดเข้าถอดออก เพื่อทำความสะอาดอยู่เรื่อย ๆ จึงไม่สะดวกกับคนที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ - ฟันปลอมเหมาะกับคนที่ไม่จำเป็นต้องเข้าสังคมหรือใช้บุคลิกภาพในการทำงาน
เพราะฟันปลอมสามารถขยับไปมาหรือหลุดออกขณะใช้ชีวิตประจำวันได้ ซึ่งทำให้คนที่ใส่ฟันปลอมอาจไม่มั่นใจในการเข้าสังคมมากนัก - ฟันปลอมถือเป็นทางเลือกของคนที่มีงบประมาณไม่สูงมาก
2. ข้อดีของฟันปลอม
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบดเคี้ยว พร้อมช่วยให้ฟันแท้ไม่ล้มหรือเคลื่อนที่ได้
- ประหยัดค่าใช้จ่าย โดยราคาฟันปลอมจะขึ้นอยู่กับวัสดุที่เลือกใช้
- มีขั้นตอนในการทำที่ง่าย รวดเร็ว เนื่องจากไม่ค่อยมีความซับซ้อนเท่ากับรากฟันเทียม
- คนไข้ไม่ต้องเจ็บตัวในระหว่างกระบวนการทำรวมถึงตอนใส่ฟันปลอม
- สามารถถอดออกมาเพื่อทำความสะอาดได้ง่าย
- มีรูปแบบและวัสดุให้เลือกหลากหลายตามงบประมาณและความชอบ
3. ข้อเสียของฟันปลอม
- ฟันปลอมอาจเพิ่มประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวได้ไม่ดีเท่ากับรากฟันเทียม
- วัสดุของฐานฟันปลอมจะไม่แข็งแรงทนทานเท่าวัสดุของฐานรากฟันเทียม
- ฟันปลอมสามารถขยับไปมาหรือหลุดออกได้ในระหว่างการใช้ชีวิตประจำวัน
- รูปแบบฟันปลอมที่ได้อาจจะไม่เนียนสวยเท่ากับการทำรากฟันเทียม
- ในช่วงแรกที่เริ่มใส่จะต้องใช้เวลาในการปรับตัวและทำความคุ้นเคย
- ใช้งานค่อนข้างลำบากเพราะต้องคอยถอดเข้าถอดออกตลอดเวลา
- อาจสร้างความรู้สึกไม่สบายปากเวลาใส่ เพราะฐานฟันปลอมยังมีความหนาอยู่พอสมควร
4. วิธีการดูแลฟันปลอม
ต้องหมั่นดูแลและทำความสะอาดอยู่เสมอ ด้วยการใช้แปรงสีฟันขนอ่อน ๆ นุ่ม ๆ รวมกับน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจาน เพื่อทำความสะอาดฟันปลอมได้อย่างหมดจด และจะต้องใช้กล่องในการจัดเก็บให้เป็นที่เป็นทางขณะไม่ได้ใช้งาน เพื่อหลีกเลี่ยงการนั่งทับซึ่งอาจทำให้ฟันปลอมเกิดการบิดงอได้ รวมถึงก่อนนอนควรแช่ฟันปลอมในภาชนะที่มีน้ำและมีฝาปิด
รากฟันเทียม คืออะไร?
ถือเป็นเครื่องมือทันตกรรมแบบถาวรของคนยุคใหม่ เพราะเป็นนวัตกรรมที่ถูกคิดค้นมาเพื่อใช้ทดแทนฟันแท้ที่เสียไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยวิธีการฝังรากฟันเทียมที่ทำจากโลหะไทเทเนียมเข้าไปในกระดูกขากรรไกร เพื่อใช้ยึดตัวฟันเทียมเข้ากับเหงือกของเรา โดยมีด้วยกัน 2 ประเภทใหญ่ ๆ ทั้งรากฟันเทียมแบบทั้งปากและรากฟันเทียมแบบบางส่วน
- รากฟันเทียมแบบทั้งปาก เป็นรากฟันเทียมที่บางคนอาจจะยังไม่รู้จัก ซึ่งใช้สำหรับทดแทนฟันทั้งปาก ด้วยการฝังรากฟันเทียม 4-6 รากต่อกระดูกขากรรไกร 1 ด้าน
- รากฟันเทียมแบบบางส่วน เป็นรากฟันเทียมที่พบเห็นได้บ่อย ใช้สำหรับทดแทนฟันบางซี่เท่านั้น ด้วยการฝังรากฟันเทียม 1 รากต่อฟัน 1 ซี่ หรืออาจทำเป็นสะพานฟัน ด้วยการฝังรากฟันเทียม 2 รากต่อฟัน 3-4 ซี่
1. รากฟันเทียมเหมาะกับใครบ้าง?
- รากฟันเทียมเหมาะกับคนที่ต้องเข้าสังคมบ่อย ๆ หรือต้องใช้บุคลิกภาพในการทำงาน
เพราะเป็นเครื่องมือทันตกรรมที่สวยเนียนไปกับฟันจริง และคนใส่รากฟันเทียมยังไม่ต้องมาคอยกังวลเรื่องฟันขยับหรือหลุด ทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจมากขึ้น - รากฟันเทียมเหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์ที่ต้องเดินทางตลอดเวลา
เพราะใช้งานสะดวกและสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เหมือนไม่มีเครื่องมือใด ๆ อยู่เลย แถมยังไม่ต้องถอดเข้าถอดออก เพื่อทำความสะอาดเหมือนกับฟันปลอมอีกด้วย - รากฟันเทียมถือเป็นทางเลือกของคนที่มีงบประมาณสูง
2. ข้อดีของรากฟันเทียม
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบดเคี้ยว พร้อมช่วยให้ฟันแท้ไม่ล้มหรือเคลื่อนที่ได้
- มีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษและติดแน่นทนนานกับเหงือกได้ดี
- ได้รูปแบบฟันที่สวยงามเหมือนกับฟันจริง ไม่มีการขยับหรือเลื่อนหลุดระหว่างวัน
- เป็นเครื่องมือทันตกรรมแบบถาวร จึงให้ความรู้สึกสบายและเนียนไปกับฟันแท้
- ไม่ต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยกับรากฟันเทียม เพราะให้ความรู้สึกเหมือนฟันแท้ปกติทั่วไป
3. ข้อเสียของรากฟันเทียม
- ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และเจ็บกว่าการทำฟันปลอม เนื่องจากต้องผ่าตัดเพื่อฝังรากฟันเทียมเข้าไปในกระดูกขากรรไกรโดยตรง
- ต้องระมัดระวังในการใช้ชีวิต อย่างการสูบบุหรี่หนัก ๆ รวมถึงการกัดหรือทานอาหารที่มีความแข็งมาก ๆ เนื่องจากจะทำให้ตัวฟันเทียมเสียหายได้
- ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน เนื่องจากมีขั้นตอนในการทำที่ซับซ้อนกว่าการทำฟันปลอม และจะต้องตรวจเช็กสุขภาพเหงือกและกระดูกขากรรไกร พร้อมวินิจฉัยอย่างละเอียดก่อนที่จะทำ
- มีเงื่อนไขในการทำค่อนข้างเยอะ หากเหงือกและกระดูกขากรรไกรของคนไข้ไม่แข็งแรงหรือมีไม่มากพอ จะต้องปลูกกระดูกสันเหงือกก่อนถึงจะทำรากฟันเทียมได้
- คนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่สามารถทำรากฟันเทียมได้ เพราะกระดูกขากรรไกรยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่
4. วิธีการดูแลรากฟันเทียม
ต้องหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์หนัก ๆ รวมถึงการทานอาหารหรือกัดสิ่งของที่มีความแข็ง เพื่อรักษาสภาพของฟันเทียม พร้อมยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานกว่าเดิม และจะต้องคอยทำความสะอาดช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอ ด้วยการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง รวมกับการใช้
ตารางเปรียบเทียบฟันปลอมกับรากฟันเทียม
ปัจจัยในการทำ | ฟันปลอม | รากฟันเทียม |
ค่าใช้จ่าย | ราคาไม่แพง | ราคาค่อนข้างสูง |
การใช้งาน | ใช้งานลำบาก ต้องถอดเข้าถอดออก | ใช้งานง่าย ใกล้เคียงกับฟันแท้ |
ความสวยงาม | ไม่ค่อยเนียนไปกับฟันจริง | สวยงามเหมือนเป็นฟันจริง |
ความแข็งแรง | วัสดุไม่ค่อยแข็งแรง บิดงอได้ | วัสดุแข็งแรงทนทาน |
การบดเคี้ยว | บดเคี้ยวได้พอใช้ | บดเคี้ยวได้ดี |
ความสบายในการใส่ | ไม่ค่อยสบาย เพราะอาจมีการขยับและหลุดระหว่างใช้งาน | ใส่สบาย เพราะเป็นแบบติดแน่นถาวร จึงไม่มีการขยับระหว่างใช้งาน |
ขั้นตอนในการผลิต | ง่ายและรวดเร็ว | ยากกว่า ใช้เวลานานกว่า |
ความเจ็บในการทำ | ไม่เจ็บตัวและสามารถใส่ได้ทันที | เจ็บ เพราะมีการผ่าตัดเพื่อฝังรากฟันเทียม |
ทั้งหมดนี้คือความแตกต่างระหว่างฟันปลอมกับรากฟันเทียม ที่น่าจะช่วยให้ทุกคนรู้ว่าตัวเองเหมาะกับเครื่องมือทันตกรรมแบบไหน และน่าจะช่วยให้ทุกคนสามารถตัดสินใจในการทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม และหากใครกำลังสนใจตรวจเช็กสุขภาพฟัน จัดฟัน รวมถึงการทำฟันปลอมและรากฟันเทียม ก็สามารถมาใช้บริการกับเราที่ Dental Design Center Pattaya ด้วยการบริการที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของคนไข้
Dental Design Pattaya คลินิกทันตกรรมครบวงจร มาตรฐานระดับโลก
- มั่นใจได้ในการบริการและคุณภาพในการรักษา ด้วยทีมทันตแพทย์ที่ผ่านการศึกษาจากสถาบันทั้งในและนอกประเทศ มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มากมาย
- เพียบพร้อมด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัยและครอบคลุมทุกการรักษา
- สร้างรอยยิ้มที่สวยงามด้วยการจัดฟัน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวให้ดียิ่งขึ้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ปรึกษาปัญหาสุขภาพฟันออนไลน์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ปรึกษาปัญหาสุขภาพฟันออนไลน์
#รากฟันเทียม #dentalimplants