ผ่าตัด ปรับแต่งเหงือก
ปรับแต่งเหงือกเพิ่มความสวยให้กับใบหน้า
การยกกระชับเหงือกและการปรับรูปร่างสามารถให้ประโยชน์ด้านความงามอย่างมากในปัจจุบัน ที่เด็นทัลดีไซน์ พัทยา เรามุ่งเน้นถึงการปรับปรุงรูปร่างและแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับฟันเเละเหงือก เพราะเราอยากให้คนไข้ ได้รอยยิ้มที่สวยและบุคลิกภาพที่ดีขึ้น เพราะรอยยิ้มที่สวยและมีเสน่ห์ต้องมาคู่กับเหงือก ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปหากคนไข้มาเข้ารับการทำเลเซอร์เหงือก หรือการปรับแต่งด้วยวิธีนี้เกิดขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด และจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น และยังช่วยดึงรอยยิ้มที่สวยงามกลับมาสวยงามมากยิ่งขึ้นอีกด้วย สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษา และทำกับทันตแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น
ตัดเหงือกคืออะไร
การตัดเหงือกหรือการศัลยกรรมตัดแต่งเหงือก เป็นการผ่าตัดยกระดับเหงือกที่มีลักษณะที่โตมากกว่าปกติ หรือเหงือกที่มีรูปร่างผิดปกติ การศัลยกรรมด้วยวิธีนี้เป็นการปรับเพื่อให้เหงือกมีความเสมอกัน และสร้างความสวยงามให้กับฟันได้อย่างดีเยี่ยมโดยส่วนใหญ่แล้วการตัดเหงือกมักทำร่วมกับการครอบฟันหรือการทำวีเนียร์
ใครบ้างที่ควรรับการผ่าตัด
- ผู้ที่มีเนื้อเหงือกเยอะ
- ผู้ที่มีฟันสั้น
- ผู้ที่มีเหงือกนูน หรือขอบเหงือกไม่เท่ากัน
การตัดเหงือกศัลยกรรมเหงือกมีกี่ประเภท และทำอย่างไร
การศัลยกรรม ตัดแต่งเหงือกมีด้วยกันสองประเภท
- การตัดเหงือกเพียงอย่างเดียว: เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีปัญหาไม่มาก เช่นฟันมีขนาดปกติ แต่เหงือกค่อนข้างเยอะ หรือหนาหรือเหงือกมีความปกคลุมเนื้อฟันมากกว่าปกติ เมื่อเวลายิ้มแล้วทำให้ฟันดูเตี้ย การตัดเหงือกเพียงอย่างเดียวนั้นแพทย์จะใช้เครื่องมือตัดเหงือกที่เรียกว่าเครื่องเลเซอร์มาตัดเหงือกที่เป็นส่วนเกินออก หลังจากทำเสร็จไม่ต้องเย็บแผลไม่ต้องพักฟื้น
- การตัดเหงือกและกรอกระดูกฟัน: วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีเหงือกคุมฟันเป็นจำนวนมากและมีกระดูกฟันนูนออกมาร่วมด้วยทั้งขอบเหงือกและกระดูกอยู่ในตำแหน่งที่สูงเกินไปการตัดกระดูกถือว่าเป็นการผ่าตัดเล็ก แพทย์จะผ่าตัดเปิดเหงือกเพื่อกรอกระดูกและตกแต่งให้สวยงาม วิธีนี้จะใช้เวลาพักฟื้นสั้นๆ และต้องดูแลความสะอาดของแผลเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เพื่อไม่ให้มีการอักเสบหรือติดเชื้อ
เมื่อตัดเหงือกแล้ว เหงือกจะงอกขึ้นมาใหม่ไหม
เมื่อตัดเหงือกแล้ว เหงือกจะไม่งอกขึ้นมาใหม่ เหงือกที่ถูกตัดแล้วจะไม่มีความสามารถในการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ แต่ในบางรายก็มีโอกาสที่เหงือกที่ตัดไปจะกลับขึ้นมางอกใหม่ เพราะไม่ได้รับการกรอกระดูกร่วมด้วย การตัดเหงือกอย่างเดียวโดยไม่กรอกระดูกฟันอาจจะทำให้เหงือกที่ตัดไปกลับมาสู่ระดับเดิมได้ แพทย์จึงจำเป็นต้องกรอกระดูกฟันออกเพื่อให้ง่ายต่อการรักษาและผลลัพธ์ที่ออกมาดี
เครื่องมือในการตัดเหงือก
ปัจจุบันการตัดแต่งเหงือกสามารถทำได้หลายวิธี แต่การตัดเหงือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มี 2 วิธี ดังนี้
การตัดด้วยมีด
การตัดขอบเหงือกด้วยมีดเป็นวิธีการที่ใช้มานานในการตัดแต่งเหงือก โดยใช้มีดเป็นเครื่องมือในการตัดเหงือก แพทย์จะใช้มีดตัดแต่งเหงือกที่มีส่วนเกินออกตามแนวร่องฟันที่ออกแบบไว้ หลังจากที่ตัดแต่งเหงือกเสร็จสิ้นแล้ว แพทย์จะทำการเย็บและปิดแผล แล้วนัดหมายครั้งต่อไปเพื่อตัดไหมออก
ระหว่างการดูแลตัวเอง คนไข้จำเป็นต้องใส่ใจในเรื่องความสะอาดอย่างเต็มที่ เนื่องจากแผลอาจเกิดการติดเชื้อได้ และจะต้องพบแพทย์ การตัดขอบเหงือกด้วยมีดยังมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น เลือดที่ออกจะมีจำนวนมากกว่าวิธีอื่น ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวนาน และมีรอยแผลที่อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ จึงทำให้วิธีนี้ได้รับความนิยมน้อยลงในปัจจุบัน
การตัดเหงือกด้วยเลเซอร์
ในปัจจุบันการตัดเหงือกด้วยเลเซอร์เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากกว่าการใช้มีดในการตัดแต่งเหงือก วิธีนี้มีข้อดีหลายประการ เช่น เจ็บน้อยกว่า, ไม่ต้องทำการเย็บแผล, แผลที่เกิดขึ้นมีขนาดเล็กกว่าและการเลือดออกน้อยกว่า นอกจากนี้ยังมีความเป็นมิตรต่อร่างกายมากขึ้นเนื่องจากมีภาวะแทรกซ้อนที่น้อยกว่า อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีกว่า (minimal invasive)
แพทย์จะใช้เครื่องมือที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการตัดขอบเหงือกในกระบวนการตัดแต่งเหงือกด้วยเลเซอร์ การทำงานในแต่ละซี่จะใช้เวลาประมาณ 2-4 นาทีเท่านั้น และระหว่างการตัด สามารถควบคุมและห้ามเลือดได้ ผู้รับการรักษาไม่ต้องกังวลเรื่องความเจ็บปวดและไม่ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว ดังนั้น วิธีการนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
ข้อดี-ข้อเสีย ในการผ่าตัดเหงือก
- ช่วยเพิ่มความมั่นใจและเสริมสร้างบุคลิกภาพให้คนไข้ได้อย่างดีขึ้น
- ดึงรอยยิ้มสวยให้กลับมาสวยมากขึ้นและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ข้อเสีย
- หลังผ่าตัดเหงือกหากคนไข้ไม่ดูแลและรักษาสุขภาพช่องปากให้ดี อาจนำไปสู่โรคปริทันต์ได้ หรืออาจจะเกิดเหงือกอักเสบ ฟันผุ ฝันสึก ได้เป็นต้น
- มีราคาที่ค่อนข้างสูง
ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดตกแต่งเหงือก
- เข้าพบทันตแพทย์เพื่อรับการปรึกษาและวางแผนการรักษา
- ขูดหินปูนและทำการเอกซเรย์รวมถึงประเมินระดับกระดูก
- ก่อนเข้ารับการผ่าตัด 2 สัปดาห์ ต้องทำการรักษาเหงือกให้มีการอักเสบน้อยที่สุด
ขั้นตอนผ่าตัดมีอะไรบ้าง
- แพทย์จะทำการฉีดยาชา และกำหนดจุดที่ต้องการผ่าตัด
- เมื่อยาชาออกฤทธิ์แพทย์จะทำการตัดเหงือกส่วนที่เกินออกมา ในกรณีที่คนไข้มีปัญหาด้านกระดูกฟัน หรือมีความนูนออกมาร่วมด้วย แพทย์จะทำการกรอกระดูก และตกแต่งกระดูกฟันให้มีความสมดุลและสวยงาม
ขั้นตอนการดูแลรักษาหลังผ่าตัด และการรับประทานอาหาร
- หลังจากการผ่าตัดเสร็จสิ้น แพทย์จะแนะนำให้ดูแลความสะอาดเบื้องต้นและนัดติดตามอาการ
- ในการดูแลแผลควรใช้คอตตอนบัดชุบน้ำเช็ดความสะอาดบาดแผลอย่างเบามือ
เมื่อมีอาการปวดก็รับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ และรับประทานยาฆ่าเชื้อตามที่แพทย์ให้จนหมด
- งดทำกิจกรรมที่อาจจะส่งผลข้างเคียงต่อฟัน เช่น การกัด การเคี้ยวของเหนียวของเเข็ง หรือการออกกำลังกายหนักๆ
- ควรดื่มน้ำสะอาดอย่างสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงเพื่อที่ร่างกายจะได้สร้างเนื้อเยื่อ และส่งผลให้แผลหายไวขึ้น
- แนะนำให้รับทานอาหารที่มีรสอ่อน ไม่แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีรสเผ็ดร้อนเพราะอาจจะทำให้ไปกระตุ้นแผลจนเกิดการอักเสบได้ รวมถึงเลี่ยงอาหารหมักดองเนื่องจากอาหารที่หมักดองมักมีกรรมวิธีในการดองที่ปนเปื้อน อาจส่งผลให้ไปกระตุ้นการอักเสบได้
- ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
การผ่าตัดเหงือกใช้เวลากี่วันถึงหายดี
โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 3-4 สัปดาห์ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาความสะอาดของคนไข้ หากดูแลแผลดี และปฏิบัติตัวตามที่แพทย์แนะนำ การฟื้นตัวของเหงือกก็จะกลับมาได้อย่างไว โดยทั่วไปหลังจากสัปดาห์ที่ 4 สภาพเหงือกก็จะแข็งแรงคนไข้ก็สามารถทำการครอบฟัน หรือทำวีเนียร์ได้เลย